คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7326/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำนวนเงินที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันซึ่งผู้ค้ำประกันจะต้องชำระเมื่อมีการผิดสัญญาโดยส่งตัวผู้ที่ขอประกันให้ตามกำหนดมิได้นั้นเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งศาลมีอำนาจจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 วรรคหนึ่ง เมื่อพิเคราะห์ถึงปัญหาแห่งความผิดที่อ้างว่า พ. ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานลักลอบนำของหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติศุลกากรประกอบกับโจทก์ได้ตัว พ. ไปดำเนินคดีจนได้ค่าปรับตามบทบัญญัติกฎหมายครบถ้วนแล้ว โจทก์ไม่ได้เสียหายอะไรอีกจึงเห็นควรลดจำนวนเงินค่าปรับลงให้เหมาะสมได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาประกันตัวนายพงษ์ จิระรุ่งเสถียรผู้ต้องหาไว้กับโจทก์ หากผิดสัญญาจำเลยยอมรับผิดใช้เงินจำนวน560,000 บาท แก่โจทก์ ต่อมาจำเลยไม่ได้นำตัวนายพงษ์ส่งให้แก่โจทก์ตามสัญญาประกันอันเป็นการผิดสัญญาประกัน ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 638,016.44 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ของเงินต้น 560,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยพยายามติดตามจนได้ตัวนายพงษ์ส่งให้แก่โจทก์ และพนักงานอัยการฟ้องนายพงษ์ต่อศาลแล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 300,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2536จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยมิได้โต้เถียงกันในชั้นฎีกาฟังได้ว่า จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวนายพงษ์ จิระรุ่งเสถียร ผู้ต้องหาซึ่งกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร ไปจากเจ้าหน้าที่ของโจทก์ในวงเงิน560,000 บาท ตามคำร้องขอประกันเอกสารหมาย จ.4 จำเลยผิดสัญญาประกันไม่นำตัวนายพงษ์ส่งโจทก์ให้ตรงวันที่กำหนดตามสัญญาประกัน ต่อมาโจทก์ได้ตัวนายพงษ์ไปดำเนินคดีและศาลอาญาพิพากษาลงโทษนายพงษ์ไปแล้วตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7495/2537มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า วงเงินประกันจำนวน560,000 บาท ที่ระบุไว้ในสัญญาประกันถือว่าเป็นเบี้ยปรับหรือไม่และศาลมีอำนาจลดเบี้ยปรับตามสัญญาประกันหรือไม่ เห็นว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันซึ่งผู้ค้ำประกันจะต้องชำระเมื่อมีการผิดสัญญาโดยส่งตัวผู้ที่ขอประกันให้ตามกำหนดมิได้นั้นเป็นเบี้ยปรับ ซึ่งศาลมีอำนาจจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคหนึ่งสำหรับเบี้ยปรับในคดีนี้เมื่อพิเคราะห์ถึงปัญหาแห่งความผิดที่อ้างว่านายพงษ์ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานลักลอบนำของหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากร ประกอบกับโจทก์ได้ตัวนายพงษ์ไปดำเนินคดีจนได้ค่าปรับตามบทบัญญัติกฎหมายครบถ้วนแล้ว โจทก์ไม่ได้เสียหายอะไรอีก ที่ศาลอุทธรณ์ลดจำนวนเงินค่าปรับคงเหลือเพียง 50,000 บาท เหมาะสมแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share