คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7312/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

แม้จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าการเดินโพยของจำเลยทั้งสองก็เพื่อให้สามารถมีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอลสำเร็จลุล่วง และเป็นหน้าที่ต่อเนื่องจากการเป็นเจ้าสำนักโดยจำเลยทั้งสองมิได้จัดให้บุคคลอื่นเป็นคนเดินโพย การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือในการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งต่างเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ จึงฟังได้ดังที่โจทก์ฟ้องกล่าวคือ จำเลยทั้งสองเป็นทั้งเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือในการพนันทายผลฟุตบอล ตามลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำทั้งสองกรณีนั้นต่างเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาแตกต่างแยกจากกันได้ แม้จะเป็นความผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมายเดียวกันก็ตาม การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองตามที่ปรากฏในคำฟ้องจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ริบของกลาง และจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ แต่โพยพนันฟุตบอลเงินจำนวนสูง ไม่มีเหตุอันควรลดโทษ ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่น จำคุกกระทงละ 3 เดือน คนละ 3 กระทง เป็นจำคุกคนละ 9 เดือน และฐานเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือจำคุกกระทงละ 3 เดือน คนละ 3 กระทง เป็นจำคุกคนละ 9 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 18 เดือน ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกระทงละกึ่งหนึ่งแล้ว รวมโทษทุกกระทงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 9 เดือน ยกคำขอที่ให้จ่ายสินบนนำจับตามกฎหมายเสียด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หรือเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท เห็นว่า แม้จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าการเดินโพยของจำเลยทั้งสองก็เพื่อให้สามารถมีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอลสำเร็จลุล่วงและเป็นหน้าที่ต่อเนื่องจากการเป็นเจ้าสำนัก โดยจำเลยทั้งสองมิได้จัดให้บุคคลอื่นเป็นคนเดินโพย การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือในการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งต่างเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ จึงฟังได้ดังที่โจทก์ฟ้อง กล่าวคือจำเลยทั้งสองเป็นทั้งเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตน และเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือในการพนันทายผลฟุตบอล ตามลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำทั้งสองกรณีนั้นต่างเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาแตกต่างแยกจากกันได้ แม้จะเป็นความผิดต่อบทบัญญัติของกฎหมายเดียวกันก็ตาม การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองตามที่ปรากฏในคำฟ้องจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งจะต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาไม่ ส่วนฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่จำเลยทั้งสองขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยทั้งสองนั้น เห็นว่า จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจ้ามือในการพนันทายผลฟุตบอล โดยโพยทายผลฟุตบอลของกลางรวมจำนวนเงินสูงถึง 565,580 บาท ซึ่งปัจจุบันการพนันชนิดนี้แพร่ระบาดทั่วไป โดยเฉพาะในหมู่นักเรียน นักศึกษา การจัดให้มีการเล่นการพนันชนิดนี้จึงมีส่วนสำคัญในการมอมเมาเยาวชนให้ลุ่มหลงในอบายมุขอย่างกว้างขวาง สร้างความเสียหายในทางเศรษฐกิจและก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุขของสังคม นอกจากนี้ยังเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมร้ายแรงอื่นตามมาอีกมากมาย พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยทั้งสองจะให้การรับสารภาพมาโดยตลอด อันเป็นเหตุบรรเทาโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ก็ได้ลดโทษขั้นสูงสุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้แก่จำเลยทั้งสองในแต่ละกระทงคนละกึ่งหนึ่งแล้ว และที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนรวมทั้งอ้างเหตุผลหรือความจำเป็นในการกระทำความผิด ตลอดจนสามารถแก้ไขปรับปรุงตัวหลังเกิดเหตุ มีความประพฤติไม่เสียหาย ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อลงโทษจำเลยทั้งสองในสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยทั้งสอง การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง การเล่นการพนันทายผลฟุตบอลเป็นการเล่นอื่นใดนอกจากที่กล่าวในมาตรา 4 ซึ่งจะพนันกันหรือจะจัดให้มีเพื่อให้พนันกันได้เฉพาะการเล่นที่ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ทวิ เท่านั้น แต่ศาลล่างทั้งสองปรับบทความผิดตามมาตรา 4 มาด้วย จึงไม่ถูกต้อง และที่ศาลล่างทั้งสองมิได้ปรับบทลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาด้วยนั้น ก็ไม่ถูกต้องปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง, 225 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 ทวิ, 12 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share