คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7308/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่บุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 นั้น ต้องเป็นกรณีจำเป็นที่จะต้องมาร้องขอต่อศาลเพื่อรับรองหรือคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยจะต้องมีกฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งว่าให้กระทำได้ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 15651598/38 และ 1598/39ไม่มีบทบัญญัติให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเพิ่มต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทต่อศาล

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า เดิมผู้ร้องเป็นภริยาของนายชาญชัยโดยชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกันสองคนคือ นายปฏิวัติและนางสาวสุรัสวดี เมื่อปี 2522 ผู้ร้องได้หย่ากับนายชาญชัยบุตรทั้งสองอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้ร้อง นายชาญชัยตกลงจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่บุตรคนละ 350 บาท ต่อเดือนทุกเดือนติดต่อกันและจะจ่ายเพิ่มขึ้นปีละ 25 บาท ต่อคน จนกว่าบุตรทั้งสองจะจบการศึกษาและสามารถประกอบอาชีพได้ ปัจจุบันนายปฏิวัติและนางสาวสุรัสวดีจำเป็นต้องใช้เงินเดือนละหลายพันบาทต่อคน นายชาญชัยมีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 12,540 บาท แต่จ่ายเงินให้บุตรทั้งสองคนละ 600 บาท เท่านั้น ผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้นายชาญชัยจ่ายเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองเพิ่มอีกคนละ900 บาท ต่อเดือน ผู้ร้องได้แจ้งให้นายชาญชัยทราบแล้วแต่นายชาญชัยเพิกเฉย ขอให้มีคำสั่งให้นายชาญชัยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองเพิ่มขึ้นด้วย
ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องขอแล้วมีคำสั่งว่า กรณีเป็นเรื่องโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55ผู้ร้องไม่อาจยื่นเป็นคำร้องขอได้ ยกคำร้อง คืนค่าขึ้นศาล
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องนำคดีมาสู่ศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท เพราะต้องการให้นายชาญชัยจันทร์สุวรรณ จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเพิ่มขึ้น ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1565 1598/38 และ 1598/39บัญญัติให้สิทธิผู้ร้องกระทำได้นั้น เห็นว่า การที่บุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 นั้นเป็นกรณีจำเป็นที่จะต้องมาร้องขอต่อศาลเพื่อรับรองหรือคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่ โดยจะต้องมีกฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งว่าให้กระทำได้แต่ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ผู้ร้องอ้างมาดังกล่าว หามีบทบัญญัติในมาตราใดระบุให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้ไม่ และปรากฎตามคำร้องขอของผู้ร้องว่า ผู้ร้องขอให้นายชาญชัยเพิ่มเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรแต่นายชาญชัยเพิกเฉย แสดงให้เห็นว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้ว ทั้งผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายชาญชัยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเพิ่มขึ้น คำร้องของผู้ร้องจึงไม่ใช่กรณีที่มาร้องขอต่อศาลเพื่อรับรอง หรือคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่ แต่เป็นกรณีขอให้ศาลบังคับนายชาญชัยให้ปฏิบัติตามคำขอของผู้ร้อง เช่นนี้ ผู้ร้องชอบที่จะฟ้องเข้ามาเป็นคดีมีข้อพิพาทจะยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share