แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การแข่งเรือที่คณะกรมการอำเภอจัดขึ้นเพื่อความสนุกรื่นเริงในงานนักขุตร์ฤกษ์ตามฤดูกลาลไม่เป็นการเล่นซึ่งมีผู้จัดขึ้นเพื่อเป็นทางมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัด และไม่มีลักษระคล้ายวิ่งวัว จึงไม่เป็นการผิดกฎหมาย
โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ แต่เมื่อพิจารณาได้ความว่าการกระของจำเลยไม่ผิดกฎหมาย ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้.
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่าคระกรมการอำเภอกันตังได้จัดให้มีการแข่งเรือเพื่อความสนุกรื่นเริงในที่สาธารณะขึ้นที่ท่าเรือตลาดกันตัง จำเลยได้ถือเอาผลการแพ้ชนะของกีฬานั้นมาพะนันขันต่อในระหว่างจำเลยซึ่งเป็นคนดู เสมอกันคนละ ๒ บาท ๕๐ สตางค์ โดยจำเลยคนหนึ่งถือหางเรือแข่งลำหนึ่งว่าเป็นฝ่ายชะนะ จำเลยอีกคนหนึ่งถือหางอีกลำหนึ่งว่าเป็นฝ่ายชะนะ.
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพะนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๔,๑๒
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นเห็นว่าการการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพะนัน พ.ศ.๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ เพราะการเล่นแข่งเรือนี้เป็นกีฬาที่คณะกรมการอำเภอเจ้าหน้าที่จัดให้มีขึ้นเพื่อความสนุกรื่นเริงในการนักขัตร์ฤกษ์ตามฤดูกาลหาใช่การเล่นซึ่งผู้จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางน้ำมาซึ่งผลประดยชน์แก่ผู้จัดหรือมีลักษระคล้ายกับวิ่งวัวคนไม่ และที่จำเลยให้การรับว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง จะถือว่าจำเลยผิดเสมอไปไม่ได้ เพราะเมื่อฟ้องของโจทก์เองปรากฏชัดว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้างแล้ว ก็ลงโทษเลยไม่ได้ จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์.