คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729-730/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่มีดีกาเปนปัญหากดหมายสาลดีกาต้องฟังข้อเท็จจิงตามที่สาลอุธรณ์วินิฉัยมา.

ย่อยาว

ข้อเท็ดจิงได้ความว่า เจ้าทรัพย์กับพวกเลิกลงอวนไนทเล มาจอดเรืองมหอยหยู่ชายฝั่งบ้านขุนสมุทจนเวลา ๒.๐๐ น. จำเลยทั้ง ๔ กับพวกอีกคนหนึ่งแล่นเรือใบเข้ามาจอดเทียบเรือเจ้าทรัพย์ สแดงตัวเปนเจ้าพนักงานเพื่อตรวดจับผู้ไม่เสียอากรค่าน้ำ พวกจำเลยได้ถามเจ้าทรัพย์ว่าเสียค่าน้ำอวนหรือเปล่า เจ้าทรัพย์ตอบว่าเปล่า จำเลยจะเอาตัวไป เจ้าทรัพย์จะหนีขึ้นฝั่ง พวกจำเลยก็ว่า ถ้าหนีจะเอาปืนยิง เจ้าทรัพย์กับพวกมีความกลัวจึงกลับมาขึ้นเรือ แล้วจำเลยก็ได้เรียกไห้เจ้าทรัพย์เสียค่าปรับ เจ้าทรัพย์ได้ถีบกะดานกลับไปเอาเงินจากบ้านมาไห้จำเลยที่เรือ สาลชั้นต้นพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๙๙ ไห้จำคุกจำเลยคนละ ๕ ปี
จำเลยอุธรณ์ สาลอุธรณ์ฟังว่าตามพฤติการน์เจ้าทรัพย์ได้มอบเงินไห้แก่จำเลยโดยหลงเชื่อถ้อยคำหลอกลวงของจำเลยว่าเปนเจ้าพนักงาน ความผิดของจำเลยเปนถานฉ้อโกง จึงพิพากสากลับไห้ยกฟ้องโจท
โจทดีกา เปนข้อกฎหมายว่า ตามข้อเท็ดจิงที่รับกัน จำเลยต้องมีผิดถานชิงทรัพย์และที่เจ้าทรัพย์ส่งเงินไห้แก่จำเลย ก็เพราะจำต้องไห้เนื่องจากถูกจำเลยขู่ หาไช่ถูกหลอกลวงไม่ สาลดีกาเห็นว่าสาลอุธรณ์ฟังข้อเท็จจิงว่าเจ้าทรัพย์มอบเงินแก่จำเลยเพราะหลงเชื่อคำหลวกลวงของจำเลย หาไช่เพราะถูกจำเลยขู่ไม่ และโจทไม่ได้ดีกาในข้อเท็ดจิงสาลดีกาจึงต้องฟังข้อเท็ดจิงดังสาลอุธรณ์ จึง
พิพากสายืน

Share