คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกะทง ๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปีโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยสมคบกันฉุดคร่าห์พานางสาวจรูญไปเพื่ออนาจาร แล้วนายสมพงษ์กับนายรากรี จำเลยข่มขืนกระทำชำเรานางสาวจรูญ ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ
จำเลยทั้งสี่ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่านายสมพงษ์นายรากรี จำเลย มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๗๖ กะทงหนึ่งให้จำคุกคนละ๑ ปี และตามมาตรา ๒๔๓ อีกกะทงหนึ่งให้จำคุกคนละ ๕ ปี ส่วนนายพะวงษ์นายเฉลิมจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๗๖,๖๕ วางอัตราโทษคนละ ๑ ปี ลดฐานสมรู้ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุกนายพะวงษ์ ๘ เดือน นายเฉลิมจำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว โทษที่จะเพิ่มกับที่จะลดเสมอกันจึงไม่ต้องลด คงจำคุก ๑ ปี
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายพะวงษ์ตายในชั้นอุทธรณ์ คดีจึงระงับไป ลงฎีกาฉะเพาะนายสมพงษ์ นายรากรี นายเฉลิม จำเลยทั้งสามคัดค้านในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะนายสมพงษ์ นายรากรีเท่านั้น ส่วนนายเฉลิมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป. วิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๘
ศาลฎีกาเห็นว่านายสมพงษ์กับนายรากรีจำเลยต้องคำพิพากษาของศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก ๕ ปี กะทงหนึ่ง ๑ ปี กะทงหนึ่ง ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน ๕ ปี เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้นแล้ว นายสมพงษ์และนายรากรี จะฎีกาคัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป. วิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๑๘ ไม่รับวินิจฉัย ให้ยกฎีกานายสมพงษ์ นายรากรี จำเลย

Share