แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยยินยอมให้ พ. นำเฮโรอีนไปซุกซ่อนไว้ในที่ดินของจำเลยอันเป็นการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ พ. กับพวกมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้โจทก์จะยังไม่ได้ฟ้อง พ. และยังไม่ได้ตัว น.ผู้ว่าจ้างให้ พ. ทำการซุกซ่อนเฮโรอีนมาดำเนินคดีก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นจากการเป็นผู้สนับสนุนไปได้
จำเลยกระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 โทษที่ศาลล่างทั้งสองวางลงโทษจำเลยจากฐานจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษต่ำสุดที่บัญญัติไว้ในกฎหมายแล้ว จึงวางโทษจำคุกสถานเบากว่านี้อีกไม่ได้
คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การว่าได้อนุญาตให้ พ. นำเฮโรอีนไปซุกซ่อนในที่ดินของจำเลยเท่ากับจำเลยรับสารภาพในความผิดฐานสนับสนุนการมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและคำรับดังกล่าวนั้นได้ใช้ประกอบการวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดอันเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล จึงสมควรลดโทษให้จำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 15, 66 วรรคสอง, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83กับสั่ง ริบเฮโรอีนของกลาง คืนกุญแจและลูกกุญแจแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 66 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ระวางโทษสองในสามส่วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 จำคุก 33 ปี 4 เดือน ริบเฮโรอีนของกลาง และให้คืนกุญแจพร้อมลูกกุญแจแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2538เวลากลางวัน เจ้าพนักงานตำรวจทำการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษในประเภท 1(เฮโรอีน) จำนวน 110 หลอด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 106.288 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณที่ดินของจำเลยตั้งอยู่ที่ตรอกลมโชย ตำบลด่านท่าเมือง อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ซึ่งมีรั้วคอนกรีตบล็อกล้อมรอบทุกด้าน และมีประตูเข้าออกเป็นประตูเหล็กและใส่กุญแจอยู่ตลอดเวลา ลูกกุญแจของกุญแจที่ใส่ประตูเหล็กเข้าที่ดินของจำเลย เก็บไว้ที่บ้านของจำเลย เฮโรอีนของกลางที่ค้นพบนางสาวพิรุณรับว่าได้รับจากนางนงเยาว์ ซิ้มสกุล นำไปซุกซ่อนไว้ในที่ดินของจำเลยดังกล่าว ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า จำเลยรู้เห็นยินยอมให้นางสายพิรุณนำเฮโรอีนของกลางดังกล่าวไปซุกซ่อนไว้ในที่ดินของจำเลยอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่นางสายพิรุณหรือนางนงเยาว์กระทำการมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยยินยอมให้นางสายพิรุณนำเฮโรอีนของกลางไปซุกซ่อนไว้ในที่ดินของจำเลยอันเป็นการให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่นางสายพิรุณกับพวกมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนพยานหลักฐานจำเลยที่อ้างว่าไม่ได้อนุญาตให้นางสายพิรุณนำเฮโรอีนของกลางไปซุกซ่อนไว้ในที่ดินของจำเลยขัดแย้งกับคำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน และขัดแย้งกับคำให้การของนางสายพิรุณ จึงมีน้ำหนักน้อยไม่อาจฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยปัญหานี้ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยต่อไปมีว่า เมื่อไม่มีตัวการที่กระทำความผิดแน่ชัดจะลงโทษจำเลยในฐานะผู้สนับสนุนได้หรือไม่นั้น เห็นว่า จากพยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบฟังได้ว่า จำเลยได้ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นางสายพิรุณกับพวกกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจึงเป็นการแน่ชัดว่านางสายพิรุณกับพวกเป็นตัวการกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้โจทก์จะยังไม่ได้ฟ้องนางสายพิรุณและยังไม่ได้ตัวนางนงเยาว์มาดำเนินคดีก็ไม่เป็นเหตุให้จำเลยพ้นจากการเป็นผู้สนับสนุนไปได้ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยปัญหานี้ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายมีว่า มีเหตุวางโทษจำเลยเบากว่าที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาไว้หรือไม่ เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 โทษที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยจากฐานจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษต่ำสุดที่บัญญัติไว้ในกฎหมายแล้ว จึงวางโทษจำคุกสถานเบากว่านี้อีกไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การว่าได้อนุญาตให้นางสายพิรุณนำเฮโรอีนของกลางเข้าไปซุกซ่อนในที่ดินของจำเลยเท่ากับจำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานสนับสนุนการมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนนั้นได้ใช้ประกอบการวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดอันเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล จึงเห็นสมควรลดโทษให้จำเลย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย 22 ปี 2 เดือน 20 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3