แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 คำว่า ผลิต หมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วย การที่จำเลยนำวัสดุเป็นผง ซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนผสมอัดเป็นเม็ด เป็นการเปลี่ยนรูปวัสดุจากเป็นผงให้เป็นเม็ด จึงเป็นการผลิตเมทแอมเฟตามีนไม่จำต้องใช้สารเคมีและเครื่องจักรในการผลิต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผลิตเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยนำเมทแอมเฟตามีนผสมกับวัสดุอื่นแล้วบดละเอียดพร้อมที่จะอัดเป็นเม็ด 1 ถุง น้ำหนัก 25.620 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้0.812 กรัม โดยผิดกฎหมาย และมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 13 เม็ด น้ำหนัก1.150 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 0.039 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67(ที่ถูกประกอบด้วยมาตรา 102) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีน ลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 37 ปี 6 เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 13 เดือน 15 วัน รวมจำคุก 37 ปี 19 เดือน 15 วัน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนอันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิต ลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 แล้ว คงจำคุก 37 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีน หรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 คำว่า ผลิตหมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุด้วย โจทก์มีพยานคือ ร้อยตำรวจเอกบุญเลิศ โพธิ์สุข และจ่าสิบตำรวจอัสนีย์ นันทสุคนธ์ เบิกความว่าจับจำเลยและยึดเมทแอมเฟตามีน 13 เม็ด เครื่องมืออุปกรณ์ผลิตเมทแอมเฟตามีน วัสดุเป็นผงคล้ายแป้งจำนวนหนึ่ง จำเลยรับสารภาพต่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับว่าผลิตเมทแอมเฟตามีนและรับว่าของกลางต่าง ๆ เป็นของจำเลย ทั้งจำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความว่า ได้ทำการผลิตยาเม็ดด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดเป็นของกลาง เพียงแต่อ้างว่าใช้ยาพาราเซตามอลกับสีผสมอาหารเป็นวัสดุในการผลิต ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ปราศจากเหตุผล ไม่มีประโยชน์หรือความจำเป็นที่จะทำดังที่จำเลยอ้าง วัสดุเป็นผงและยาเม็ดของกลางได้รับการตรวจพิสูจน์พบว่ามีเมทแอมเฟตามีนผสมอยู่ ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ มีเมทแอมเฟตามีนติดอยู่ ดังนี้ กรณีไม่ใช่การนำยาพาราเซตามอลมาบดอัดเป็นเม็ดตามที่จำเลยนำสืบ พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่า จำเลยนำวัสดุเป็นผงซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนผสมมาอัดเป็นเม็ด การกระทำของจำเลยเป็นการเปลี่ยนรูปวัสดุซึ่งมีเมทแอมเฟตามีนผสมจากเป็นผงให้เป็นเม็ด จึงเป็นการผลิตเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ดังกล่าวแล้ว หาจำต้องใช้สารเคมีและเครื่องจักรในการผลิตดังที่จำเลยฎีกาไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า ความผิดฐานนี้ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียวจึงไม่อาจกำหนดโทษให้เบาลงอีกได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน