แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานตำรวจติดตามค้นหารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่หายไปทั้งคัน แต่ไปพบชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ของรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้ที่บ้านจำเลยที่ 2 ในลักษณะถอดเป็น ชิ้นส่วน โดยจำเลยทั้งสองรับว่าซื้อไว้เพราะราคาถูกพฤติการณ์ ดังกล่าวจึงเป็นการส่งเสริมให้มีการลัก จักรยานยนต์ มาก ยิ่งขึ้น และเป็นการช่วยปิดบังการกระทำผิดเพราะเมื่อรถจักรยานยนต์ ของกลางถูกถอดแยกออกเป็นชิ้นส่วนแล้วนำไปขายเช่นนี้ เจ้าพนักงานตำรวจย่อมยากที่จะติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้ จึงสมควรลงโทษสถานหนัก เพื่อปรามมิให้การกระทำผิดเช่นนี้ แพร่หลายต่อไป และไม่ควรรอการลงโทษให้จำเลยทั้งสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 357
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพฐานรับของโจร
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง, 83 จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายแล้ว ให้ลงโทษสถานเบาจำคุกคนละ3 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยทั้งสองฎีกาขอให้รอการลงโทษโดยจำเลยทั้งสองได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 45,000 บาทให้ผู้เสียหายและผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยทั้งสองนั้นเห็นว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพฐานรับของโจรตามฟ้องข้อเท็จจริงจึงต้องรับฟังว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันรับของโจรชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ รวม 6 รายการ ตามบัญชีของกลางท้ายฟ้องตามฟ้องโจทก์ระบุว่ารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหายไปทั้งคันแต่เจ้าพนักงานตำรวจติดตามยึดของกลางชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ได้ที่บ้านจำเลยที่ 1 ในลักษณะถอดเป็นชิ้นส่วนรวม 6 รายการซึ่งจำเลยทั้งสองให้การว่ารับซื้อไว้เพราะเห็นว่าราคาถูกพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้มีการลักรถจักรยานยนต์มากยิ่งขึ้นและเป็นการช่วยปิดบังการกระทำผิด เพราะเมื่อรถจักรยานยนต์ของกลางถูกถอดแยกออกเป็นชิ้นส่วนแล้วนำไปขายเช่นนี้ เจ้าพนักงานตำรวจย่อมยากที่จะติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้จึงสมควรลงโทษสถานหนัก เพื่อปรามมิให้การกระทำผิดเช่นนี้แพร่หลายต่อไปที่ศาลอุทธรณ์ไม่รอการลงโทษให้จำเลยทั้งสองเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน