แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนเป็นไปโดยไม่ชอบ สมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างว่ากรรมการนับคะแนนวินิจฉัยบัตรเสียว่าเป็นบัตรดี และบัตรดีว่าเป็นบัตรเสีย กับอ้างว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้จูงใจราษฎรให้ลงคะแนนให้แก่ตน ต่อมาในชั้นพิจารณาผู้ร้องเพียงแต่อ้างรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18) และขอให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคล ดังนี้ ข้อเท็จจริงก็ฟังไม่ได้ตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านมา ศาลย่อมสั่งยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเสีย
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลว่าสมควรจะให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในเขตเลือกตั้งจังหวัดสกลนครใหม่ เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ เป็นไปโดยมิชอบ
ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครและผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาพผู้แทนทุกคน ซึ่งบุคคลดังกล่าวยื่นคำร้องแก้ข้อกล่าวหาของผู้ร้องว่าตามคำร้องของผู้ร้องไม่เป็นความจริง
ในวันนัดพิจารณา นายแสวง แสงจันทร์ ผู้ร้องแถลงต่อศาลว่า ขอให้ศาลตรวจนับคะแนนดีและคะแนนเสียเท่าที่ปรากฏในรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.๑๘) ที่เจ้าหน้าที่นำส่งศาล แล้วขอให้ศาลวินิจฉัยไปเลยว่า การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหรือไม่โดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครแถลงว่า บัตรเสียที่ปรากฏในรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.๑๘) นั้น เป็นบัตรเสียรวมทุกประเภท ไม่ใช่เฉพาะบัตรเสียตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านเท่านั้น บัตรเสียเหล่านี้จะเป็นบัตรเสียของหมายเลขเท่าใดไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นทำความเห็นส่งไปยังศาลฎีกาว่า เมื่อผู้ร้องร้องคัดค้านการเลือกตั้งว่าเป็นไปโดยมิชอบ สมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่อย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงให้ปรากฏเห็นควรยกคำร้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องนั้นมีอยู่ ๒ ข้อ คือ ๑. หาว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนตรวจนับบัตรดีเป็นบัตรเสีย และบัตรเสียเป็นบัตรดี ๒. หาว่านายโบแดง จันตะเสน และนายประชา ตงศิริ ผู้ได้รับเลือกตั้งสองคนนี้ว่า ได้โฆษณาจูงใจราษฎรว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งแล้วจะสร้างรั้ววัด จะทำถนนและมุงหลังคาศาลาการเปรียญให้และให้ระฆัง ๑ ใบ ราคา ๓,๐๐๐ บาทแก่วัดบ้านบงเหนือ เพื่อจูงใจให้ราษฎรลงคะแนนให้แก่ตน
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยาน ข้อกล่าวหาในข้อ ๒ เกี่ยวกับการกระทำของนายโบแดง จันตะเสน และนายประชา ตงศิริ ฟังไม่ได้ ฉะนั้น จึงไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัย ข้อกล่าวหาข้อนี้จึงตกไป
ส่วนข้อกล่าวหาตามข้อ ๑ นั้น ศาลฎีกาได้ตรวจรายงานผลการนับคะแนนที่ผู้ร้องอ้างมาแล้ว ปรากฏว่า ในรายงานผลการนับคะแนนทุกหน่วยได้รายงานว่า จำนวนผู้เลือกตั้งซึ่งปรากฏในบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง จำนวน . . . . . . คนนั้น ได้มาแสดงตนขอรับบัตรเลือกตั้งเพื่อการลงคะแนนรวมทั้งสิ้น . . . . . . คน ได้คะแนน . . . . . . คน ไม่ลงคะแนน . . . . . . คน เป็นบัตรเสีย . . . . . . บัตร
บัตรเสียที่ได้ระบุจำนวนลงไว้นั้นไม่ได้ระบุว่าเป็นบัตรเสียเพราะเหตุใด เท่าที่ปรากฏในรายงานดังกล่าวยังไม่สามารถที่จะฟังได้ว่าบัตรเสียเหล่านั้นความจริงเป็นบัตรดี หรือบัตรดีที่ระบุไว้นั้นความจริงเป็นบัตรเสีย ดังที่ผู้ร้องร้องคัดค้านขึ้นมา เมื่อผู้ร้องไม่นำพยานเข้าสืบให้ได้ความตามคำร้องแล้ว ข้อเท็จจริงก็ฟังไม่ได้ตามที่ผู้ร้องคัดค้านมา ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเสีย