แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสาร ล.1 อยู่ในความอารักขาของทางอำเภอ ฉะนั้น สำเนาเอกสาร ล.1 ซึ่งนายอำเภอรับรองว่าถูกต้อง ย่อมรับฟังได้
ระเบียบพิธีการ เกี่ยวกับการสละมรดกจะต้องทำอย่างไร และต้องเสียค่าธรรมเนียมทำหนังสือ ค่ารับมอบเก็บรักษาของอำเภอนั้น ระเบียบเช่นว่านั้นไม่ใช่แบบบังคับเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของเอกสารหมาย ล.1 ซึ่งเป็นสัญญาแบ่งปันมรดก
ที่ดินและเรือนเป็นทรัพย์มรดก แต่เอกสาร ล.1 กล่าวถึงเฉพาะที่ดิน ไม่ใช่เรือน จึงมิใช่เอกสารสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 เพราะจะทำแต่เพียงบางส่วนไม่ได้ตามมาตรา 1613 อย่างไรก็ดี เอกสารหมาย ล.1 ก็เป็นหลักฐานแห่งสัญญาแบ่งปันมรดกซึ่งโจทก์ลงลายมือชื่อว่าโจทก์เป็นทายาทของเจ้าของมรดก มีสิทธิรับมรดกที่ดิน แต่โจทก์ไม่พึงประสงค์จะรับโอนมรดกต่อไป โจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยผู้เป็นภริยาของเจ้ามรดกเป็นผู้รับโอนไปแต่ผู้เดียว จึงมีผลบังคับเฉพาะที่ดินเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรือน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดานายไข่ จำเลยเป็นภริยามิชอบด้วยกฎหมายของนายไข่ นายไข่ตาย โจทก์มีสิทธิรับมรดกคนเดียว จำเลยมิยอมส่งมอบ ขอให้ศาลบังคับจำเลยส่งมอบทรัพย์อันดับ ๑ และแบ่งทรัพย์อันดับ ๒, ๓ ออกเป็นสองส่วน ให้โจทก์ส่วนหนึ่ง ฯลฯ
จำเลยให้การว่า โจทก์ยอมสละมรดกให้จำเลยแต่ผู้เดียว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยแต่งงานกันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ พิพากษาแบ่งที่ดินบ้านเรือนพิพาท ๒ หลังออกเป็น ๔ ส่วน ให้โจทก์ได้ ๑ ส่วน จำเลยได้ ๓ ส่วน
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สละที่ดินสวนจากมรดกให้แก่จำเลยแต่ฝ่ายเดียว พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ที่เรียกที่ดินสวนจาก ทรัพย์อันดับ ๑ คืน คงให้แบ่งเรือนทรัพย์อันดับ ๒ และ ๓ ให้โจทก์ ๑ ใน ๔ ส่วน เป็นของจำเลย ๓ ใน ๔ ฯลฯ
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยเป็นภริยานายไข่โดยชอบด้วยกฎหมาย และเห็นว่าเอกสารหมาย ล.๑ คือหนังสือสละมรดกสำหรับที่ดินสวนจาก คือทรัพย์อันดับ ๑ แม้นายอำเภอจะมาลงชื่อในหนังสือนี้ตามที่เจ้าหน้าที่เสนอภายหลัง ก็ไม่ทำให้เอกสารนี้เสียไป เอกสารอยู่ในความอารักขาของทางราชการ สำเนาหมาย ล.๑ ซึ่งนายอำเภอรับรองว่าถูกต้อง ย่อมรับฟังได้
ที่โจทก์อ้างถึงระเบียบพิธีการ เกี่ยวกับการสละมรดกจะต้องทำอย่างไร และต้องเสียค่าธรรมเนียมทำหนังสือ ค่ารับมอบเก็บรักษาของอำเภอนั้น ระเบียบเช่นว่าไม่ใช่แบบบังคับเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของหนังสือหมาย ล.๑ ถึงจะไม่ทำตามระเบียบก็ไม่ทำให้หนังสือหมาย ล.๑ เสียไป
นอกจากนี้ศาลฎีกาเห็นว่า เอกสารหมาย ล.๑ กล่าวถึงเฉพาะที่ดิน ไม่เกี่ยวกับเรือน และไม่ใช่เอกสารสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๑๒ เพราะจะทำแต่เพียงบางส่วนไม่ได้ ตามมาตรา ๑๖๑๓ แต่เป็นสัญญาแบ่งปันมรดกซึ่งโจทก์ลงลายมือชื่อว่าโจทก์เป็นทายาทโดยชอบธรรมของนายไข่ มีสิทธิรับมรดกที่ดิน แต่โจทก์ไม่พึงประสงค์จะรับโอนมรดกต่อไป โจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยผู้เป็นภริยานายไข่เจ้ามรดกเป็นผู้รับโอนไปแต่ผู้เดียว ตามมาตรา ๑๗๕๐ จึงมีผลบังคับเฉพาะที่ดินเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรือน ที่ศาลอุทธรณ์ให้แบ่งเรือนทรัพย์อันดับ ๒ และ ๓ ให้โจทก์นั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.