คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713-714/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการตีความแสดงเจตนานั้นท่านให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษร พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ การแปลข้อความในหนังสือสัญญาประกันเปนปัญหาข้อกฎหมาย วิธีพิจารณาแพ่ง เมื่อคู่กรณีย์รับกันว่ามีเจตนาเข้าทำนิติกรรมกันอย่างใดแล้ว ศาลไม่จำเป็นต้องตีความประการใดอีก

ย่อยาว

ส.แล ภ.ขอประกัน ล.จำเลยซึ่งต้องหาว่าลักถอนต้นเข้าของ ญ.ไปจากศาล ต่อมาศาลตัดสินลงโทษ แต่ให้รอการลงอาญาไว้ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาส่งมายังศาลเดิม แต่นายประกันส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาไม่ได้ อัยยการจึงยื่นคำร้องขอให้ปรับนายประกันตามสัญญา
ศาลเดิมมีคำสั่งว่า นายประกันไม่ต้องรับผิดเพราะศาลได้ปฏิบัติเป็นระเบีบนมาช้านานแล้วว่าเมื่อศาลเดิมตัดสินแล้วสัญญาประกันเป็นอันสิ้นอายุ จะปรับนายประกันไม่ได้
ศาลอุทธรณ์ตัดสินทับสัตย์
อัยยการฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อความในหนังสือสัญญาประกันต้องถือว่าได้ประกันตัวจำเลยตลอดไปจนกว่าจะเสร็จคดี
ศาลฎีกาตัดสินว่า ข้อกฎหมายที่โจทก์กล่าวมาในฎีกานั้น ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้ในฎีกาที่ ๙๑๓/๒๔๗๑ แล้วว่า เป็นการรับประกันตัวจำเลยตลอดไปจนกว่าจะเสร็จคดี แต่เรื่องนี้ศาลเดิมถือเปนระเบียบแลได้เคยปฏิบัติมาในคดีหลายเรื่องว่า นายประกันได้ประกันตัวจำเลยเพียงชั้นศาลเดิมตัดสินคดี ฉะนั้นเมื่อคู่กรณีย์รับกันว่าได้มีเจตนาเข้าทำนิติกรรมกันเช่นนี้แล้ว ปัญหาในข้อที่จะต้องแปลเอกสารฉะบับนั้นก็หาต้องตีความประการใดอีกไม่ จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง

Share