แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำน้ำตาลเมาไว้เพื่อจำหน่ายแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยมีน้ำตาลเมา ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องศาลต้องยกฟ้องโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำน้ำตาลเมาซึ่งมีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินมึนเมาได้ เช่นสุราไว้เพื่อจำหน่าย มีจำนวนน้ำตาลอองเมา ๒๒ ลิตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าพนักงานจับน้ำตาลดองเมา ฯลฯ ได้จากที่ซ่อนเป็นของกลางกับจับตัวจำเลยได้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ. ๑๒๔๘ ม. ๓๘ พรบ ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๖ มาตรา ๗,๘,
ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาลงโทษปรับ จำเลยตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ. ๑๒๔๘ มาตรา ๓๘ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๖ ม. ๗
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ารูปคดีเป็นเรื่องมีน้ำตาลดองเมา แต่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำน้ำตาลดองเมา จะลงโทษจำเลยไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องแต่ในข้อทำ ไม่ใช่ฟ้องในข้อจำหน่ายด้วย ก็ไม่พอให้แปลว่าฟ้องว่ามี การฟ้องฐานไหนจะต้องกล่าวไว้โดยชัดเจนหรือให้แปลเอาได้จากฟ้องโดยชัดเจน แต่ฟ้องของ โจทก์ในคดีนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพียงแต่อ้างบทมาตรา ว่า มีมาด้วยเฉย ๆ จะ ลงโทษจำเลยฐานมีหาได้ไม่ ข้อ สำคัญนั้นต้องได้บรรยายมาในฟ้องเสียก่อน เมื่อถือไม่ได้ว่าฟ้องว่า มีแล้ว ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทาง พิจารณาว่า มี ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องว่า ทำต้องยกฟ้องโจทก์ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์