แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญากันในเรื่องการเข้าเป็นหุ้นส่วนในการทำอุตสาหกรรมน้ำดื่มร่วมกัน โดยสัญญาระบุว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสมัครใจที่จะถอนหุ้นตามนิติกรรมสัญญาฉบับนี้ ยินดีที่จะให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งดำเนินกิจการต่อไปแต่ฝ่ายเดียวโดยคู่สัญญาฝ่ายที่จะดำเนินการต่อไปจะต้องจ่ายเงินในวงเงิน 250,000 บาทคืนแก่คู่สัญญาที่จะถอนหุ้นทันทีโดยไม่มีข้อแม้แต่ประการใด ดังนี้ เมื่อโจทก์เลิกการเป็นหุ้นส่วนแม้จำเลยได้ทำกิจการน้ำดื่มต่อมา เป็นเวลาเพียง 1 เดือน ก็ตาม จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว โดยจ่ายเงิน 250,000 บาท แก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นหุ้นส่วนในการประกอบกิจการอุตสาหกรรมน้ำดื่ม ลงทุนเป็นเงินคนละประมาณ 250,000 บาท มีทรัพย์สินของหุ้นส่วนคิดเป็นเงินประมาณ 500,000 บาท มีข้อตกลงว่าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสมัครใจถอนหุ้น คู่สัญญาที่ดำเนินกิจการต่อไปจะต้องจ่ายเงินจำนวน 250,000 บาท ให้แก่ฝ่ายที่ถอนหุ้นทันทีเมื่อเดือนมิถุนายน 2533 โจทก์ได้ถอนหุ้นโดยความตกลงยินยอมของจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมชำระเงิน 250,000 บาท ให้แก่โจทก์ โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 250,000 บาท นับแต่สิ้นเดือนมิถุนายน 2533 จนถึงวันฟ้องรวม 11 เดือน เป็นเงิน 17,187 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 267,187 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 250,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกทำกิจการน้ำดื่มนับแต่โจทก์ถอนหุ้นไปจำเลยไม่ได้ผิดสัญญา ทรัพย์สินของหุ้นส่วนมีเครื่องกรองน้ำจำนวน 2 เครื่อง โจทก์และจำเลยทำกิจการน้ำดื่มร่วมกันมีทรัพย์สินเพิ่มคือเครื่องกรองน้ำ 3 เครื่อง รถยนต์จำนวน 1 คันราคาประมาณ 30,000 บาท ทรัพย์สินของหุ้นส่วนคงมีราคาประมาณ 80,000 บาทโจทก์จึงมีสิทธิขอแบ่งทรัพย์สินได้ครึ่งหนึ่งเป็นเงิน 40,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งเครื่องกรองน้ำ 3 เครื่อง ขวดราคา 11,000 บาทรถยนต์กระบะ 1 คัน ให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่ง คำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 250,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าจำเลยต้องจ่ายเงิน 250,000 บาท ให้โจทก์ตามบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ.2 หรือไม่ เห็นว่าข้อตกลงตามเอกสารหมาย จ.2 เป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญากันในเรื่องการเข้าเป็นหุ้นส่วนในการทำอุตสาหกรรมน้ำดื่มร่วมกัน โดยสัญญา ข้อ 4 ระบุว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสมัครใจที่จะถอนหุ้นตามนิติกรรมสัญญาฉบับนี้ ยินดีที่จะให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งดำเนินกิจการต่อไปแต่ฝ่ายเดียว โดยคู่สัญญาฝ่ายที่จะดำเนินการต่อไปจะต้องจ่ายเงินในวงเงิน 250,000 บาท คืนแก่คู่สัญญาที่จะถอนหุ้นทันทีโดยไม่มีข้อแม้แต่ประการใด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า หลังจากที่โจทก์เลิกการเป็นหุ้นส่วน จำเลยได้ทำกิจการน้ำดื่มต่อมา แม้จะเป็นเวลาเพียง 1 เดือน ตามที่จำเลยอ้างก็ตาม จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา ข้อ 4 ดังกล่าว โดยจ่ายเงิน 250,000 บาท แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามาชอบแล้ว
พิพากษายืน