คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการโอนซึ่งผู้ล้มละลายโอนทรัพย์ให้แก่ผู้อื่นไป ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.114 เมื่อปรากฎว่าทรัพย์ที่โอนนั้นพังสลายไปแล้ว โดยถูกพายุพัดพังซึ่งเห็นได้ว่าถึงอย่างไรก็ต้องพังสลายไป ผู้รับโอนย่อมไม่ต้องรับผิดชดใช้ราคา

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่าผู้จัดการบริษัทจำเลยซึ่งล้มละลายได้ยกกรรมสิทธิโกดังหนึ่งหลังของบริษัทผู้ล้มละลายให้แก่ น.ส.สอาด โดยไม่มีอำนาจ และไม่สุจริต และไม่มีค่าตอบแทน น.ส.สอาดได้โอนต่อไปให้นายพาณิชย์และนางพวงแข ทั้งเป็นการโอนภายใน ๓ ปี ก่อนล้มละลาย จึงขอให้เพิกถอนการโอนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๙๓ ม.๑๑๔
่นายเกียหย่ง แก้ว่าเป็นการโอนใช้หนี้ น.ส.สอาด นายพาณิชย์ นางพวงแข แก้ว่าได้มาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนจนได้โอนขายต่อไปแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นการโอนโดยมีค่าตอบแทนโดยสุจริตจนโกดังตกไปเป็นของบุคคลภายนอกแล้ว จะเพิกถอนไม่ได้และตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.๑๑๔ ศาลจะสั่งให้ใช้ราคาก็ไม่ได้
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงปรากฎในสำนวนว่าโกดังได้ถูกพายุใต้ฝุ่นพัดพังไปแล้ว น่าจะหมดคุณค่าขนาดที่ผู้ร้องจะพึงประสงค์ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเพิกถอน คำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงสิ้นไปเพราะหมดวัตถุประสงค์ที่จะบังคับได้ และศาลไม่มีอำนาจอื่นนอกจากจะเพิกถอนการโอน แต่ทรัพย์ที่จะขอให้เพิกถอนก็ได้เสื่อมสิ้นไปโดยไม่ใช่ความผิดของใครที่จะไล่เบี้ยได้ จึงพิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกาว่าถ้าการโอนมิชอบแล้ว แม้โกดังพังทลายไปผู้รับโอนก็จะต้องใช้ราคา
ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จะฟังว่าโกดังได้โอนไปโดยไม่สุจริตแต่ที่โกดังถูกพายุใต้ฝุ่นพัดพังลงนั้นก็คงตั้งอยู่ที่เดิมซึ่งเห็นได้ว่าถึงอย่างไร โกดังก็ต้องพังอยู่นั่นเอง ผู้รับโอนย่อมเห็นได้ว่าถึงอย่างไร โกดังก็ต้องพังอยู่นั่นเอง ผู้รับโอนย่อมไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ราคาให้ตาม ป.พ.พ.ม.๔๑๓ วรรค ๒ ฉนั้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น ๆ ต่อไป พิพากษายืน

Share