แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยจับจองทับที่ของโจทก์ขอให้เพิกถอนการจับจองจำเลยต่อสู้ว่า ที่ที่จับจองเป็นที่ว่างเปล่าในที่สุดได้ตกลงท้ากันให้ศาลไปดูและวินิจฉัยเจาะจงข้อเถียงว่าถ้าที่พิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญชาติ ก็ให้โจทก์ชนะคดีถ้าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ปลูกพืชผลธัญชาติอะไรไปเลยให้จำเลยชนะคดี ดังนี้ เมื่อศาลไปดูแล้วปรากฏว่าที่พิพาทมีสภาพเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญชาติสมจริงแล้วแม้จะมิได้ปลูกเต็มเนื้อที่พิพาท ก็ต้องให้โจทก์ชนะคดีได้ที่พิพาททั้งหมดจะแบ่งให้โจทก์ได้เฉพาะตอนที่ปลูกพืชผล ส่วนตอนที่ไม่ได้ปลูกให้ได้แก่จำเลยนั้นไม่ถูกต้องเพราะมิได้อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นข้อท้าเป็นการนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจับจองที่ดินทับที่ของโจทก์ประมาณ 8 ไร่ 80 วา จึงขอให้เพิกถอน
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า
คราวชี้สองสถาน คู่ความตกลงกะประเด็นข้อแพ้ชนะกันข้อเดียวว่า”ที่ดินรายพิพาทเป็นที่ดินซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติ หรือเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ปลูกอะไรเลยถ้าที่รายพิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติอยู่ให้โจทก์ชนะคดี ถ้าเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ปลูกพืชผลธัญญะชาติอะไรในที่ดินเลย ให้จำเลยชนะคดี ให้ศาลไปดูที่ดินรายพิพาทแล้วชี้ขาด”
ศาลชั้นต้นไปดูที่พิพาทพร้อมด้วยคู่ความแล้ว จดรายงานกระบวนพิจารณาว่า ที่พิพาทภายในเส้นสีแดงเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ มีกระต๊อบ 1 หลัง ต้นกล้วย 19 ต้นร่องมัน 22 ร่อง ร้ายถั่วเก่า50 หลุม มะละกอต้นเล็ก ๆ 10 ต้น นอกนั้นเป็นที่ว่างเปล่ามิได้ทำประโยชน์ปลูกพืชผลอะไรไว้เลย และชี้ขาดว่าที่พิพาทภายนอกเส้นสีแดงเป็นที่ว่าง โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครอง คงพิพากษาให้เฉพาะที่ภายในเส้นสีแดง 1 ไร่เศษ เป็นที่ดินของโจทก์ให้เพิกถอนการจับจองทับในส่วนนี้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ควรชนะคดีเต็มตามฟ้อง จึงพิพากษาแก้ให้เพิกถอนการจับของที่พิพาททั้งหมด
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อคู่ความได้ประนอมระงับข้อโต้เถียงมิได้ประสงค์ให้ศาลวินิจฉัยบรรดาประเด็นข้อเท็จจริงตามคำฟ้องคำให้การ ตกลงกันใหม่เพียงตั้งประเด็นขอให้ศาลไปดูและวินิจฉัยโดยเฉพาะเจาะจงข้อเดียวว่า ถ้าที่พิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติให้โจทก์ชนะคดี ถ้าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ปลูกพืชผลธัญญะชาติอะไรเลย ให้จำเลยแพ้คดีก็เมื่อปรากฏตามที่ศาลไปดูว่าที่พิพาท มีสภาพเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติ สมจริงแล้ว ก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีไปตามคำท้า ส่วนการที่จะวินิจฉัยสับซอยต่อไปอีกว่า ที่พิพาทนอกสีแดงเป็นที่ว่าง โจทก์ก็ไม่มีสิทธิครอบครองนั้น มิได้อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นข้อท้า
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว พิพากษายืน