แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 3 ถึงแก่มรณะก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่ 3 ในฐานะกรรมการศึกษาของโรงเรียน บ. มิให้รบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์และคัดค้านการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของโจทก์ จึงเป็นการเฉพาะตัวของจำเลยที่ 3 โดยแท้ ไม่อาจให้บุคคลอื่นเข้าเป็นคู่ความแทนได้ ให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ ๑ ในฐานะครูใหญ่ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ในฐานะกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านแหลมทอง ไม่ให้รบกวนสิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์และคัดค้านการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของโจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเรียกกรมธนารักษ์เข้ามาเป็นจำเลยร่วมโดยคู่ความมิได้ร้องขอ
จำเลยร่วมให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสี่และจำเลยร่วม โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเหตุโจทก์มิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายตามคำพิพากษามาวางพร้อมอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๒๙ คืนค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ทนายความจำเลยทั้งสี่ยื่นคำแถลงว่า จำเลยที่ ๓ ได้มรณะ ขอให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๓ ออกจากสารบบความ
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๓ ได้มรณะเสียก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา และด้วยเหตุที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยที่ ๓ ในฐานะกรรมการศึกษาโรงเรียนบ้านแหลมทองมิให้รบกวนการครอบครองที่ดินของโจทก์และคัดค้านการออกเอกสารสิทธิในที่ดินของโจทก์ จึงเป็นการเฉพาะตัวของจำเลยที่ ๓ โดยแท้ ไม่อาจให้บุคคลอื่นเข้าเป็นคู่ความแทนได้ จึงให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๓ ออกจากสารบบความของศาลฎีกา
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ให้ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษาใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ รวมสั่งเมื่อมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่.