คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นกรรมการของบริษัท ช. และให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับบริษัท ช. กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดกับบริษัท ช. ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522. มาตรา 72
โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต กับวันเวลาที่จำเลยกับพวกฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นกรรมการของบริษัทชวริน จำกัด เมื่อระหว่างวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๒๓ เวลากลางวัน ถึงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๒๓ เวลากลางวัน ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน บริษัทชวริน จำกัด กับจำเลยและพวกที่หลบหนี ในฐานะกรรมการบริษัทและในฐานะส่วนตัวได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารตึก ๔ ชั้น ของบริษัทชวริน จำกัด เพื่อพาณิชยกรรมและเป็นการกระทำในทางการค้าเพื่อให้เช่า โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๒๓ เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบเห็นการกระทำดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้จำเลยกับพวกระงับการก่อสร้างอาคารนั้นทันที โดยปิดประกาศคำสั่งเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๒๓ จำเลยกับพวกได้ทราบประกาศแล้ว แต่ได้ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานดังกล่าวโดยควบคุมและดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวตลอดมาจนถึงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๑, ๔๐, ๖๕, ๖๗, ๗๐, ๗๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๑, ๔๐, ๖๕, ๖๗, ๗๐, ๗๒ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๐ เรียงกระทงลงโทษ ฐานก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาต ลงโทษปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ลงโทษปรับวันละ ๕,๐๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๓ ถึงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ฐานก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ลงโทษปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท ฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานลงโทษปรับวันละ ๒,๕๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๓ ถึงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๓
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยเป็นเพียงกรรมการของบริษัทไม่ควรต้องร่วมรับผิดด้วยนั้น เห็นว่าพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗๒ บัญญัติว่า “ในกรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่ากรรมการหรือผู้จัดการทุกคนของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับนิติบุคคลนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการกระทำของนิติบุคคลนั้น ได้กระทำโดยตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นกรรมการของบริษัทชวริน จำกัด และในชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกระทำผิดกับบริษัทชวริน จำกัด จึงถือได้ว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดกับพวกตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่จำเลยฎีกาว่าความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่รับอนุญาตนั้น เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องยืนยันถึงวันเวลาที่จำเลยกับพวกได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารพาณิชย์โดยไม่รับอนุญาตกับวันเวลาที่จำเลยกับพวกร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นเป็นคนละวันและเวลากัน การกระทำของจำเลยกับพวกถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
พิพากษายืน

Share