คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีซึ่งมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต้องอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ระหว่างการส่งคำบังคับจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา แต่เป็นเพราะไม่ทราบว่าถูกฟ้องและจำเลยมีทางชนะหากได้มีโอกาสเข้าสู้คดี ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยยื่นคำให้การและดำเนินการพิจารณาคดีใหม่
โจทก์คัดค้านว่า จำเลยจงใจขาดนัดและประวิงการบังคับ โจทก์นำเจ้าพนักงานศาลส่งสำเนาคำฟ้องและหมายเรียกให้แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาของจำเลยไม่ได้เพราะไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อถนนและหมู่บ้าน จึงต้องขอให้ประกาศหนังสือพิมพ์ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ เรื่องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชดใช้เงิน ๒๒,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาของจำเลยที่ว่ามิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงมิให้โจทก์ทราบที่อยู่ของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share