คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7097/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยขายที่ดินให้โจทก์เนื้อที่ 1 ไร่ และจำเลยบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นกล้วยในที่ดินของโจทก์นั้นเป็นฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง เมื่อปรากฏว่าที่ดินพิพาทในขณะฟ้องราคาไร่ละ 100,000 บาท ดังนี้ราคาทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกินสองแสนบาทต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณปี 2520 โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่าจากจำเลยเนื้อที่ 1 ไร่ ราคา 1,000 บาท แล้วครอบครองทำประโยชน์ปลูกพืชผลไม้ตลอดมา เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2532 จำเลยบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นกล้วย 8 กอ คิดเป็นค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 8,000 บาท และวันที่ 3 เมษายน 2533 จำเลยพร้อมบริวารเข้าไปถางหญ้าอีก อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุข ขอให้ห้ามจำเลยยุ่งเกี่ยวกับที่ดินอีกต่อไป กับให้ชำระค่าเสียหายจำนวน8,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ไม่เคยขายที่ดินเนื้อที่ 1 ไร่ ให้โจทก์ แต่เมื่อ 10 ปีเศษมาแล้ว โจทก์มาขออาศัยปลูกบ้านในที่ดินจำเลยเนื้อที่1 งาน โดยให้ค่าตอบแทน 1,000 บาท จำเลยไม่ได้บุกรุกเข้าไปตัดต้นกล้วย ค่าเสียหายไม่ควรเกิน 160 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ห้ามจำเลยยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทของโจทก์อีกต่อไป และให้จำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 500 บาทแก่โจทก์
ก่อนศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกา จำเลยถึงแก่กรรมนางสาวมุกดาสระพรหม บุตรจำเลยยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12)พ.ศ. 2534 มาตรา 18 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม2534 เป็นต้นไปนั้น บัญญัติว่า “ในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง” คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยขายที่ดินให้โจทก์เนื้อที่ 1 ไร่ ตามที่ปรากฏในกรอบเส้นสีน้ำเงินในแผนที่พิพาทและจำเลยบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นกล้วยในที่ดินของโจทก์จำเลยฎีกาว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยขายที่ดินให้โจทก์เนื้อที่ 1 ไร่ และจำเลยบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นกล้วยในที่ดินของโจทก์ จึงเป็นฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง และปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยว่าที่ดินพิพาทในขณะฟ้องราคาไร่ละ 100,000 บาทราคาทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงตามบทบัญญัติดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลย

Share