คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในชั้นบังคับคดีให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลพิพากษาตามยอมเสร็จเด็ดขาดไปแล้วนั้นเมื่อคำแถลงของโจทก์ระบุถึงความเสียหายที่จำเลยซ่อมแซมตึกแถวผิดไปจากแบบแปลนมาเพียง4รายการการที่โจทก์นำสืบถึงความเสียหายอื่นนอกเหนือไปจากความเสียหายที่ระบุมาในคำแถลงแม้จะเป็นการนำสืบตามฟ้องแต่ก็เป็นการนำสืบนอกเหนือไปจากคำแถลงในชั้นบังคับคดีอุทธรณ์ในความเสียหายอื่นของโจทก์จึงถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยตกลงหาผู้รับจ้างมาซ่อมอาคารพาณิชย์ของโจทก์เลขที่ 112/14-15 หมู่ที่ 9 ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ ให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน นับแต่วันที่15 กันยายน 2534 การซ่อมให้เป็นไปตามรายละเอียดในเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข 4 โดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเพียงผู้เดียวทั้งนี้ โจทก์มีสิทธินำวิศวกรของโจทก์มาตรวจสอบการซ่อมได้ในขณะก่อสร้าง ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงว่า จำเลยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และไม่เป็นไปตามเอกสารซึ่งวิศวกรฝ่ายโจทก์ตรวจสอบ ขอให้เรียกจำเลยมาไกล่เกลี่ยเพื่อทำให้ถูกต้องศาลชั้นต้นสอบจำเลย จำเลยแถลงว่าจัดการซ่อมเสร็จเรียบร้อยตามรายการแล้ว
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้จำเลยแก้ไขโครงสร้างหลังคาให้ตรงตามแบบภายใน 30 วัน นับแต่วันฟังคำสั่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า หลังจากโจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่ 26 สิงหาคม 2534แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2534 โจทก์ยื่นคำแถลงว่าจำเลยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยโจทก์ได้แนบเอกสารที่วิศวกรของโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบว่าจำเลยซ่อมแซมตึกแถวของโจทก์ผิดไปจากแบบแปลนมาท้ายคำแถลงด้วย ปรากฎตามเอกสารท้ายคำแถลงหมายเลข 1 และเลข 2 ตามเอกสารดังกล่าวมีรายการที่โจทก์อ้างว่าจำเลยซ่อมแซมตึกแถวผิดแบบแปลนอยู่ 4 รายการ คือ 1.เทคอนกรีตคานคอดินโดยไม่สูบน้ำออก 2.จันทัน โครงหลังคาใช้ไม้ผิดขนาด3.อิฐก่อโชว์แนวใช้อิฐมอญไม่ใช้อิฐ บ.ป.ก. และ 4.ติดตั้งหน้าต่างและวงกบของเดิมไม่ใช้ของใหม่ หลังจากศาลชั้นต้นไต่สวนตามคำแถลงของโจทก์แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยซ่อมแซมตึกแถวของโจทก์ผิดแบบแปลนเฉพาะโครงหลังคารายการเดียว คือ ตามแบบแปลนกำหนดให้ใช้ไม้จันทันขนาด 1.5″ x 6″ แต่จำเลยใช้ไม้ขนาด 2″ x 4″จึงให้จำเลยแก้ไขรายการนี้ให้ถูกต้อง แต่ครั้นเวลาโจทก์อุทธรณ์โจทก์กลับยกเอารายการความเสียหายอื่นที่มิใช่รายการตามคำแถลงมาอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้ซ่อมแซมให้ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่าที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ชอบหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่าในชั้นไต่สวนโจทก์ได้นำสืบถึงความเสียหายตามเอกสารหมาย จ.5ทุกรายการ โจทก์จึงมีสิทธิอุทธรณ์ถึงความเสียหายรายการอื่นที่ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยได้ มิใช่เป็นอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น เห็นว่า ในชั้นนี้เป็นชั้นบังคับคดีให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อคำแถลงของโจทก์ระบุถึงความเสียหายที่จำเลยซ่อมแซมตึกแถวผิดไปจากแบบแปลนมาเพียง4 รายการ การที่โจทก์นำสืบถึงความเสียหายอื่นนอกเหนือไปจากความเสียหายที่ระบุมาในคำแถลง แม้จะเป็นการนำสืบตามฟ้อง แต่ก็เป็นการนำสืบนอกเหนือไปจากคำแถลงในชั้นบังคับคดีอุทธรณ์ในความเสียหายอื่นของโจทก์จึงถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยนั้นชอบแล้วส่วนฎีกาของโจทก์ข้อ 3.1 ถึงข้อ 3.6 ซึ่งเป็นฎีกาข้อต่อมาก็เป็นการฎีกาถึงความเสียหายนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในคำแถลงเช่นเดียวกับชั้นอุทธรณ์ ถือได้ว่าเป็นฎีกาในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share