แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน แต่ปรากฎตามคำพะยานโจทก์ว่าทำผิดวันที่ 11 ดังนี้ ต้องถือว่าข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ต่างกับฟ้องต้องยกฟ้อง
พฤตติการณ์ที่ถือว่าศาลไม่อนุญาตให้แก้ฟ้อง
ศาลจะอนุญาตให้แก้ฟ้องหรอืไม่อยู่ในดุลยพินิจของศาล
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๐ ปรากฎตามคำพะยานโจทก์ว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ ๑๑ เดือนเดียวกัน โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ศาลชั้นต้นอ่านคำร้องให้จำเลยฟัง จำเลยขอยืนยันให้การตามคำให้การเดิม ศาลชั้นต้นตัดสินว่า ข้อเท็จจริงผิดไปจากฟ้อง แม้โจทก์จะร้องขอแก้ก็ดี แต่เป็นภายหลังที่โจทก์ได้สืบพะยานหมดแล้ว ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมาว่า การที่ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์โดยไม่ได้สั่งอนุญาตทันทีนั้น ต้องถือว่าศาลอนุญาตแล้วและต้องถือว่าจำเลยไม่คัดค้าน และไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้อย่างใด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จะฎีกาได้ก็แต่ปัญหากฎหมาย ในฎีกาข้อแรกมีว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้แก้ฟ้องได้หรือไม่นั้นปรากฎชัดในคำพิพากษาว่าศาลไม่อนุญาตดังนี้ จึงฟังไม่ได้ว่าศาลได้อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง ส่วนปัญหาที่ว่าศาลจะควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องหรือไม่นั้น เป็นข้อเท็จจริง ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง