แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง,157 ทวิ วรรคหนึ่งและให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย ซึ่งความผิดข้อหาดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดข้อหาดังกล่าวอีกไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 57, 91 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 43 ทวิ, 157 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 57, 91 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก6 เดือน อนึ่ง หลังจากที่มีการแก้กฎหมายให้เมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ทำให้เมทแอมเฟตามีนไม่ได้เป็นวัตถุออกฤทธิ์อีกต่อไป การที่จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนในขณะขับรถยนต์นับแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2539 เป็นต้นไป อันเป็นวันที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 97 (พ.ศ. 2539) มีผลบังคับจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 43 ทวิ ไม่อาจนำมาตรา 157 ทวิ มาบังคับใช้กรณีได้อีกข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยโดยอัยการพิเศษประจำเขต 3 ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง,157 ทวิ วรรคหนึ่ง และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย ซึ่งความผิดข้อหาดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดข้อหาดังกล่าวอีกไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาโจทก์