คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7032/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาเมื่อล่วงเลยเวลากำหนด1เดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา247โดยอ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อมาโจทก์ได้ยื่นฎีกาในกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายดังกล่าวศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ดังนี้การที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา23นั้นจะต้องกระทำเสียก่อนระยะเวลายื่นฎีกาสิ้นสุดลงเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยแต่เหตุที่ทนายโจทก์อ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงมิได้ได้ยื่นฎีกาในกำหนดอายุฎีกานั้นมิใช่เหตุสุดวิสัยแต่อย่างใดกรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ได้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาจึงไม่ชอบฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาจึงเป็นฎีกาที่ยื่นเกินกำหนดอายุฎีกาจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาบังคับจำเลยทั้งสองขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์กับให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์12,000 บาท และใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เดือนละ 2,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 5196 ตำบลหระแท่นอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เฉพาะที่พิพาทเนื้อที่ 1 ไร่เศษระหว่างโจทก์กับนายสนั่นและนางสำรวย มณีนิล และขอให้ที่พิพาทตกเป็นสิทธิของจำเลยทั้งสองโดยปลอดจากภารจำยอมใด ๆหากจำเลยทั้งสองต้องชำระเงินค่าไถ่ถอนจำนองไปเท่าใดให้โจทก์ชดใช้เงินดังกล่าวคืนแก่จำเลยทั้งสอง
โจทก์ในการแก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองขนย้ายบ้านเลขที่ 39หมู่ที่ 7 ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีพร้อมทรัพย์สินอื่นของจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 5196 ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกาจังหวัดกาญจนบุรี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 800 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์และให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน โฉนดเลขที่ 5196 ตำบลพระแท่นอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เฉพาะส่วนพิพาทคดีนี้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 17 ตารางวา ตามแผนที่พิพาทฉบับจ่าศาลจัดทำตามคำสั่งศาล และให้ที่พิพาทดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสองโดยปลอดจากจำนอง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามคำแก้ฎีกาของจำเลยทั้งสองเสียก่อนว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาฎีกา และฎีกาของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2538 โจทก์ต้องยื่นฎีกาภายในกำหนด1 เดือน นับแน่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 แต่เมื่อล่วงเลยกำหนด 1 เดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 แล้วทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม2538 โดยอ้างว่าหลงลืมวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อมาโจทก์ได้ยื่นฎีกาในกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ เห็นว่า การที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 นั้นจะต้องกระทำเสียก่อนระยะเวลายื่นฎีกาสิ้นสุดลงเว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย แต่เหตุที่ทนายโจทก์อ้างว่าหลงลือวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงมิได้ได้ยื่นฎีกาในกำหนดอายุฎีกานั้นมิใช่เหตุสุดวิสัยแต่อย่างใด กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลชั้นต้นจะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาจำเลยไม่ชอบ ฎีกาของโจทก์ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาจึงเป็นฎีกาที่ยื่นเกินกำหนดอายุฎีกาจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาแก่โจทก์ และยกฎีกาของโจทก์

Share