แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ที่อยู่ในกระบวนพิจารณาคดีฟื้นฟูกิจการนั้น แบ่งตามมูลหนี้ที่เกิดขึ้นเป็น 3 ช่วง กล่าวคือ ช่วงแรก มูลหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและหนี้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผน อันเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา 90/26 และมาตรา 90/27 ช่วงที่สอง หนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผนจนถึงก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน หากว่าหนี้ส่วนนี้มิได้กำหนดไว้ในแผนเป็นอย่างอื่น เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งได้ โดยอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 90/12 (4) (5) และมาตรา 90/13 ช่วงที่สาม หนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน เมื่อแผนฟื้นฟูกิจการมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่งต่อศาลที่มีเขตอำนาจได้โดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/62
เมื่อหนี้ของเจ้าหนี้เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้ว และแผนฟื้นฟูกิจการมิได้กำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ เจ้าหนี้จึงหาอาจมีคำขอในคดีฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางให้สั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวได้ไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓ และตั้งบริษัทเอ็ฟเฟ็คทีพ แพลนเนอร์ส จำกัด เป็นผู้ทำแผน ต่อมาวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๓ ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน โดยมีบริษัทเอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด เป็นผู้บริหารแผน
เจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นจำนวน ๕,๓๕๓,๓๐๙.๒๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีนับแต่วันที่ผิดนัด (วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๓) จนกว่าชำระหนี้เสร็จ และให้ลูกหนี้ชำระค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้น นับจากวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ จนกว่าสัญญาการยืมใบหุ้นจะสิ้นสุดให้แก่เจ้าหนี้
ผู้บริหารแผนและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า หนี้ค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ แต่เจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้นี้ภายหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ดังกล่าวอีก
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นจำนวน ๕,๓๕๓,๓๐๙.๒๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ผิดนัด (วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๓) จนกว่าลูกหนี้จะชำระเสร็จสิ้น และให้ลูกหนี้ชำระค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นนับจากวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ เป็นต้นไปจนกว่าสัญญาการยืมใบหุ้นจะสิ้นสุดให้แก่เจ้าหนี้ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้บริหารแผนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๐ ลูกหนี้ทำสัญญายืมใบหุ้นสามัญของบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเจ้าหนี้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำนวน ๙๒,๙๐๐,๘๓๕ หุ้น เพื่อนำไปจำนำเป็นหลักประกันหนี้ที่ลูกหนี้มีต่อธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในวงเงิน ๙๒๙,๐๐๘,๓๕๐ บาท โดยลูกหนี้สัญญาว่าจะจ่ายค่าธรรมเนียมรวมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มในการขอยืมใบหุ้นให้แก่เจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ ๓ ของราคาตลาดหุ้นสามัญ โดยคิดคำนวณจากราคาปิดเฉลี่ยของแต่ละเดือน ลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระค่าธรรมเนียมในการยืมใบหุ้นให้แก่เจ้าหนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๓ ถึงวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓ อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการเป็นเงิน ๓,๓๒๘,๘๕๙.๓๘ บาท เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการจำนวนดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงิน ๓,๓๒๘,๘๕๙.๓๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนกว่าชำระหนี้เสร็จ ต่อมาลูกหนี้ได้ชำระค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๔ เป็นเงิน ๘,๓๔๕,๙๘๓.๒๒ บาท อีกด้วย แต่ยังมีหนี้ค่าธรรมเนียมค้างชำระอีก ๓๘,๔๘๑.๕๖ บาท หนี้ค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นนับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๔ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ เป็นเงิน ๕,๓๑๔,๘๒๗.๗๒ บาท และหนี้ค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นนับจากวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ จนกว่าสัญญาการยืมใบหุ้นสามัญสิ้นสุดลง
มีปัญหาสมควรยกขึ้นวินิจฉัยก่อนว่า เจ้าหนี้จะยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางให้สั่งผู้บริหารแผนชำระหนี้ในมูลหนี้ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการได้หรือไม่ ปัญหาดังกล่าวแม้ว่าจะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้างแต่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๒ (๕), ๒๔๖ ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๘ เห็นว่า การที่จะได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ที่อยู่ในกระบวนพิจารณาคดีฟื้นฟูกิจการนั้น แบ่งตามมูลหนี้ที่เกิดขึ้นเป็น ๓ ช่วง กล่าวคือ ช่วงแรก มูลหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและหนี้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผนอันเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในมาตรา ๙๐/๒๖ และมาตรา ๙๐/๒๗ ช่วงที่สอง หนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ทำแผนจนถึงก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน หากว่าหนี้ส่วนนี้มิได้กำหนดไว้ในแผนเป็นอย่างอื่น เจ้าหนี้ ก็สามารถฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งได้โดยอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา ๙๐/๑๒ (๔) (๕) และมาตรา ๙๐/๑๓ ช่วงที่สาม หนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน เมื่อแผนฟื้นฟูกิจการมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่งต่อศาลที่มีเขตอำนาจได้โดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามมาตรา ๙๐/๖๒ หนี้ตามคำร้อง เจ้าหนี้อ้างว่าเป็นหนี้ที่เกิดจากลูกหนี้ทำสัญญายืมใบหุ้นสามัญของเจ้าหนี้เพื่อนำไปเป็นหลักประกันหนี้ที่ลูกหนี้มีต่อธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยลูกหนี้สัญญาว่าจะจ่ายค่าธรรมเนียมรวมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มในการขอยืมใบหุ้นให้แก่เจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ ๓ ของราคาตลาดหุ้นสามัญโดยคิดคำนวณจากราคาปิดเฉลี่ยของแต่ละเดือน จึงมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนโดยคิดค่าตอบแทนเป็นรายเดือน เช่นนี้หนี้ของเจ้าหนี้ย่อมเกิดขึ้นตามกำหนดเป็นระยะเวลาที่มีการผูกพันตามสัญญาดังกล่าว เมื่อเจ้าหนี้ได้ขอให้ผู้บริหารแผนชำระหนี้ค่าธรรมเนียมค้างชำระและหนี้ค่าธรรมเนียมซึ่งเกิดขึ้น นับแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๔ ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ จำนวน ๕,๓๑๔,๘๒๗.๗๒ บาท และหนี้นับจากวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ จนกว่าสัญญาการยืมใบหุ้นสามัญสิ้นสุดลง หนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้ว และแผนฟื้นฟูกิจการมิได้กำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ เจ้าหนี้จึงหาอาจมีคำขอในคดีฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางให้สั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวได้ไม่ เมื่อผู้บริหารแผนโต้แย้งสิทธิของเจ้าหนี้ เจ้าหนี้จึงต้องไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้รับคำร้องของเจ้าหนี้ไว้พิจารณาและมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระเงินค่าธรรมเนียมการยืมใบหุ้นสามัญนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษายกคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ไม่รับคำร้องของเจ้าหนี้ ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่เจ้าหนี้ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลนอกจากนี้ให้เป็นพับ.
(วัฒนชัย โชติชูตระกูล – ประมาณ ตียะไพบูลย์สิน – วรนาถ ภูมิถาวร)