แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้จ้างโจทก์สร้างถนนและลานจอดรถยนต์ในบริเวณโรงแรมแล้วจำเลยได้หลอกลวง บ. ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างว่าโจทก์ละทิ้งงาน และสั่งให้ บ. รื้อถนนและลานจอดรถยนต์ที่โจทก์สร้างและครอบครองดูแลออกจนหมดทำให้ถนนและลานจอดรถเสียหายใช้การไม่ได้ ดังนี้ กรณีเป็นเรื่องโต้แย้งกันว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจ้าง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 362 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อหาในความผิดฐานบุกรุกเป็นอันยุติคงมีข้อวินิจฉัยตามที่โจทก์ฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เป็นคำฟ้องในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์หรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้จ้างให้โจทก์สร้างถนนและลานจอดรถยนต์ในบริเวณโรงแรมพัทยาพาเลซ โดยจำเลยเป็นตัวแทนของโรงแรมพัทยาพาเลซ และนายธเนศ เตลาน ผู้ถือหุ้น แล้วจำเลยได้หลอกลวงนายบำรุงซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างว่า โจทก์ละทิ้งงานที่จำเลยว่าจ้าง และได้สั่งนายบำรุงใช้รถแทรกเตอร์และรถเกรตรื้อถนนและลานจอดรถยนต์ที่โจทก์สร้างออกจนหมด ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าจ้างอ้างว่าโจทก์ผู้รับจ้างฝ่าฝืนข้อสัญญาโดยละทิ้งงานที่รับจ้างทำจำเลยจึงได้ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างคนอื่นรื้องานที่จ้างโจทก์ทำออก ถึงแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ดูแลและครอบครองสิทธิถนนและลานจอดรถที่กำลังก่อสร้างก็เป็นเพียงบรรยายให้เห็นว่างานที่ทำยังไม่มีการส่งมอบกันถูกต้องเท่านั้น หากโจทก์เห็นว่าได้ทำการถูกต้องตามสัญญาโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าจ้าง ก็เป็นเรื่องจะต้องว่ากล่าวกันในทางแพ่งเห็นว่ากรณีเป็นเรื่องโต้แย้งกันว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจ้าง ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องหาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่”
พิพากษายืน