แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 บัญญัติว่า กระบวนพิจารณาในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้และข้อกำหนดตามมาตรา 30 ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติและข้อกำหนดดังกล่าว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง… มาใช้บังคับโดยอนุโลม ป.วิ.พ. มาตรา 85 บัญญัติว่า คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริง ย่อมมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานใดๆ มาสืบได้ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานและการยื่นพยานหลักฐาน และมาตรา 104 บัญญัติว่าให้ศาลมีอำนาจเต็มในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำมาสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่ แล้วพิพากษาคดีไปตามนั้น นอกจากนี้ในข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2540 ข้อ 31 ยังกำหนดให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขออนุญาตต่อศาลเสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของผู้ให้ถ้อยคำซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศแทนการนำบุคคลนั้นมาเบิกความเป็นพยานต่อหน้าศาลได้ ซึ่งโจทก์ก็ขออนุญาตต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของ ม. พร้อมเอกสารแนบท้ายเป็นพยานแทนการนำพยานปากนี้มาเบิกความต่อหน้าศาล และศาลได้อนุญาตซึ่งจำเลยทั้งสามไม่ได้คัดค้าน ดังปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาอันแสดงว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับประเด็น ศาลจึงรับฟังบันทึกถ้อยคำเอกสารพร้อมเอกสารแนบท้ายได้ในฐานะเป็นพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาของศาล โดยไม่จำเป็นต้องเคยยื่นหรืออ้างส่งเป็นหลักฐานในชั้นพิจารณาของนายทะเบียนและของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามาก่อนแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าและมิให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 2 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 3 กับขอให้สั่งห้ามมิให้จำเลยที่ 1 รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ดังกล่าวของนายบำรุงต่อไป
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 798/2547 ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า และมิให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 380571 ให้จำเลยทั้งสามชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติตามคำแถลงของคู่ความในชั้นพิจารณา และตามคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางว่า เครื่องหมายการค้าตัวเลขอารบิคอักษรโรมัน 555 อยู่ภายในรูปวงรี และคำว่า THREE FIVE ทั้งหมดอยู่ในกรอบรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 380571 ของนายบำรุงคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เป็นเครื่องหมายที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป…
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่าบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของนายมิตซูฮิโรและเอกสารการสำรวจความมีชื่อเสียงแพร่หลายของเครื่องหมายการค้า 555 ซึ่งใช้กับสินค้าอะไหล่รถยนต์ไม่อาจรับฟังในชั้นพิจารณาของศาลได้ เพราะโจทก์ไม่ได้ยื่นหรืออ้างส่งในชั้นพิจารณาของนายทะเบียน และของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามาก่อนนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพยสินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 บัญญัติว่า กระบวนพิจารณาในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้และข้อกำหนดตามมาตรา 30 ในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติและข้อกำหนดดังกล่าว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง…มาใช้บังคับโดยอนุโลม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 85 บัญญัติว่า คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริง ย่อมมีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานใด ๆ มาสืบได้ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานและการยื่นพยานหลักฐาน และมาตรา 104 บัญญัติว่า ให้ศาลมีอำนาจเต็มในอันที่จะวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานที่คู่ความนำมาสืบนั้นจะเกี่ยวกับประเด็นและเป็นอันเพียงพอให้เชื่อฟังเป็นยุติได้หรือไม่ แล้วพิพากษาคดีไปตามนั้น นอกจากนี้ในข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2540 ข้อ 31 ยังกำหนดให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขออนุญาตต่อศาลเสนอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของผู้ให้ถ้อยคำซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศแทนการนำบุคคลนั้นมาเบิกความเป็นพยานต่อหน้าศาลได้ ซึ่งโจทก์ก็ขออนุญาตต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของนายมิตซูฮิโรพร้อมเอกสารแนบท้ายเป็นพยานแทนการนำพยานปากนี้มาเบิกความต่อหน้าศาล และศาลได้อนุญาต ซึ่งจำเลยทั้งสามไม่ได้คัดค้าน ดังปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับวันที่ 22 มีนาคม 2548 อันแสดงว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับประเด็น ศาลจึงรับฟังบันทึกถ้อยคำของนายมิตซูฮิโร พร้อมเอกสารแนบท้ายในฐานะเป็นพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบในชั้นพิจารณาของศาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องเคยยื่นหรืออ้างส่งเป็นหลักฐานในชั้นพิจารณาของนายทะเบียนและของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามาก่อนแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า และมิให้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ