แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คนดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีกสองคนสมคบกันทำการปล้นทรัพย์ แต่ในชั้นพิจารณาปรากฏจากพยานโจทก์ว่าเห็นผู้ร้าย 3 คนคือจำเลยทั้งสองและนายส่อง แต่ในชั้นสอบสวนปรากฏว่ามีนายแนบด้วยอีกคนหนึ่ง
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ร้ายปล้นทรัพย์รายนี้ให้ลงโทษจำคุกตามมาตรา 301 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม มีกำหนดคนละ 10 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โต้เถียงข้อหนึ่งว่า ข้อแตกต่างในเรื่องมีผู้ร้าย 3 คน หรือ 4 คนนี้ เป็นเรื่องที่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในคำฟ้อง ต้องยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อแตกต่างเรื่องมีผู้ร้าย 3 คนหรือ 4 คนจำเลยยกขึ้นเป็นข้อโต้เถียงว่าเป็นเรื่องที่ได้ความตามทางพิจารณาแตกต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้องของโจทก์นั้นฟังไม่ขึ้นเพราะข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิดคดีนี้ได้ความว่ามีผู้ร้ายถึง 3 คน มีอาวุธกระทำการปล้นผู้เสียหายดังฟ้อง ศาลนี้จึงเห็นพ้องด้วยศาลทั้งสองที่ฟังพยานโจทก์ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดดังโจทก์กล่าวหา
จึงพิพากษายืน