แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์อย่างไรเรียกว่าถูกยึดหรืออายัติสัตว์ที่เจ้าของที่ดินยึดไว้เป็นประกันค่าเสียหายตามประมวลแพ่ง ม.452 นั้นไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัติตามกฎหมายอาชญา
ผู้แทนหรือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่เจ้าหนักงานตามกฎหมาย
ย่อยาว
ได้ความว่ากระบือของจำเลยแลผู้ อื่นเข้าไปกินแลเยียบย่ำเข้าในนาของ ด. กับ พ. ๆ ช่วยกันจับกระบือนั้นไว้รวม ๕๔ ตัวเพื่อเรียกค่าเสียหาย ก็พอดีกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดิรมา เจ้าทรัพย์จึงแจ้งเหตุแก่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ๆ ว่าถ้าเจ้าของมาเอาแย่าให้ไป แล้วจำเลยตามมาพบกระบือนั้นเข้า จึงเอาคืนไป โจทก์จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาชญา ม.๒๕๐
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม ม.๒๙๐ จะต้องได้ความประกอบด้วยลักษณ ๒ ประการ คือ (๑) ทรัพย์นั้นต้องยึดหรืออายัติไว้ตามกฎหมาย แล (๒) บังอาจเอาทรัพย์นั้นไปโดยเจตนาทุจริตคดีนี้จะฟังว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกยึดหรืออายัติไม่ได้ เพราะเจ้าของนาจับไว้เองยังไม่ได้มอบส่งให้เจ้าหน้าที่ แลผู้แทนผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายส่วนประมวลแพ่ง ม.๕๔๒ ที่โจทก์อ้างก็เป็นแต่อำนาจเจ้าของที่ดินยึดสัตว์นั้นไว้เป็นประกันค่าเสียหายได้ แต่จะแปลให้เข้ากับกฎหมายอาชญา ม.๒๙๐ ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกยึดแลอายัติไม่ได้แลจำเลยก็ไม่มีเจตนาทุจริตอย่างใดจึงให้ยกฟ้องโจทก์