คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องนำผู้แปลมาสืบเมื่อจำเลยเห็นว่าคำแปลตรงไหนไม่ถูกต้อง หรือคลาดเคลื่อนอย่างไรจำเลยก็โต้แย้งหรือเสนอคำแปลที่ถูกต้องได้ แต่จำเลยก็ไม่ได้กระทำการดังกล่าว จึงถือได้ว่าคำแปลเอกสารภาษาต่างประเทศของโจทก์ถูกต้องแล้ว
สินค้าของโจทก์จำหน่ายแพร่หลายในประเทศไทยมาราว 15 ปีแล้ว แต่โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทย ชื่อสินค้าโจทก์ที่เรียกว่า “CALUMET” นั้นไม่มีคำแปล การที่จำเลยเรียกชื่อสินค้าของจำเลยว่า “CALUMAK” ซึ่งแตกต่างกับชื่อสินค้าของโจทก์เพียงอักษรท้ายสองตัว เมื่อออกสำเนียงชื่อก็คล้ายคลึงกันสีพื้นของเครื่องหมายการค้าเป็นสีแดงและมีรูปคนประกอบเหมือนกัน ทั้งสินค้าของโจทก์จำเลยก็เป็นสินค้าจำพวก 42 เช่นเดียวกัน ส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยที่จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าของโจทก์ แม้จำเลยจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้ว แต่เมื่อจำเลยเอาสินค้าของจำเลยไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า มาตรา 29 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลโดยจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดที่ได้จัดตั้งขึ้นและดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎหมายมลรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าด้วยการผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นอาหารหรือเครื่องปรุงอาหาร โจทก์ได้จดทะเบียนใช้เครื่องหมายการค้าในจำพวก 42 สำหรับสิ่งของสินค้าทั้งจำพวกในประเทศไทยแล้ว โดยใช้เครื่องหมายการค้าว่า “CALUMET”ไม่มีคำแปล สินค้าโจทก์มีคุณภาพดีเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกและประเทศไทย ผู้ซื้อเชื่อถือในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ก่อนที่จำเลยจะผลิตและจำหน่ายสินค้าดังกล่าว จำเลยประกอบการค้าด้วยการผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นอาหารหรือเครื่องปรุงอาหารซึ่งมีคุณภาพไม่ดีเท่าสินค้าของโจทก์ โดยจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าว่า “callumak” ซึ่งมีรูปลักษณะเหมือนหรือคล้ายคลึงเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนทำให้คนเข้าใจผิดหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิด ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวและให้ทำลายสินค้าที่ใช้เครื่องหมายดังกล่าวกับให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่าเอกสารและคำแปลท้ายฟ้องจำเลยขอปฏิเสธการมีอยู่และความถูกต้อง จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้วในสินค้าประเภท 42 โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในประเทศไทย โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับไม่ให้จำเลยใช้ จำเลยใช้สิทธิของจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการละเมิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยจงใจใช้เครื่องหมายการค้าเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์ แม้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจะได้รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้วและไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ แต่เมื่อเครื่องหมายการค้านี้เป็นของโจทก์ จำเลยไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์ พิพากษาห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยและให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้นำผู้แปลเอกสารภาษาต่างประเทศมาสืบจึงรับฟังคำแปลไม่ได้นั้น เห็นว่ากฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องนำผู้แปลมาสืบ เมื่อจำเลยเห็นว่าคำแปลตรงไหนไม่ถูกต้อง หรือคลาดเคลื่อนอย่างไรจำเลยก็โต้แย้งหรือเสนอคำแปลที่ถูกต้องได้ แต่จำเลยก็ไม่ได้กระทำการดังกล่าว จึงถือได้ว่าคำแปลเอกสารภาษาต่างประเทศของโจทก์ถูกต้องแล้วปัญหาเรื่องจำเลยเลียนแบบสินค้าและเครื่องหมายการค้าของโจทก์หรือไม่นั้นเห็นว่าสินค้าของโจทก์จำหน่ายแพร่หลายในประเทศไทยมาประมาณ 15 ปีแล้วสินค้าของโจทก์ที่เรียกว่า “CALUMET” นั้นไม่มีคำแปล การที่จำเลยเรียกชื่อสินค้าของจำเลยว่า “calumak” ซึ่งแตกต่างกับชื่อสินค้าของโจทก์เพียงอักษรท้ายสองตัวเมื่อออกสำเนียงก็คล้ายคลึงกัน คือโจทก์ออกสำเนียงว่า “คาลูเมต” ส่วของจำเลยออกสำเนียงว่า “คาลูแมค” สีพื้นของเครื่องหมายการค้าเป็นสีแดงและมีรูปคนประกอบเหมือนกันทั้งสินค้าของโจทก์และจำเลยก็เป็นสินค้าจำพวก 42 คือวัตถุที่ใช้เป็นอาหารหรือเป็นเครื่องปรุงอาหารเช่นเดียวกัน ส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยที่จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าของจำเลยเป็นสินค้าของโจทก์ แม้จำเลยจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยแล้ว แต่เมื่อจำเลยเอาสินค้าของจำเลยไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของโจทก์ การกระทำของจำเลยก็เป็นการละเมิด โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 29 วรรคสอง แม้โจทก์จะนำสืบเรื่องค่าเสียหายไม่ชัดแจ้งว่าเสียหายเท่าไรแน่ ศาลก็มีอำนาจกำหนดค่าเสียหายให้ได้ตามความเหมาะสม ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share