แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยขนย้ายข้าว เข้ามาในเขตต์ห้ามขนย้ายข้าวตามประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 เพราะมาตรานี้ห้ามไว้แต่การขนย้ายออกนอกเขตต์ซึ่งคณะกรรมการประกาศกำหนดเท่านั้น.
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณารวมกัน โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้บังอาจขนย้ายข้าวโดยทางเรือยนตร์ว่ารินสินธุ์ เป็นพาหนะบรรทุกจากจังหวัดพระนครผ่านสมุทรสาคร เข้ามาในเขตต์จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเขตต์ห้ามขนย้ายตามประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ทั้งนี้โดยมิได้รับหนังสืออนุญาตจากคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายงี่ฮวดเฮงจำเลยทำการขนย้ายข้าวเหนียว ไม่มีความผิด ส่วนนายเลี่ยงหลีจำเลยมีผิดตามฟ้อง ให้ปรับ ๒๐ บาท มีผู้พิพากษานายหนึ่งคำความเห็นแย้งว่า นายเลี่ยงหลีจำเลยควรมีความผิดเช่นเดียวกันศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิด จึงพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสอง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มุ่งหมายกล่าวหาว่า จำเลยทำการขนย้ายเข้ามาในเขตต์จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเขตต์ห้ามการขนย้ายเท่านั้น จึงไม่มีความผิด ตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ๒๔๘๙ มาตรา ๑๐ เพราะมาตรานี้บัญญัติห้ามไว้แต่การขนย้ายออกนอกเขตต์ ซึ่งคณะกรรมการประกาศกำหนดเท่านั้น การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่มีผิด.
พิพากษายืน.