แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยตั้งชื่อบริษัทจำเลยตรงกับคำในเครื่องหมายการค้าตราม้าลายของโจทก์และของว. กรรมการของจำเลยไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในการที่จะใช้นามหรือชื่ออันชอบที่จะใช้ได้หรือทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าของนามหรือชื่อนั้นต้องเสื่อมเสียประโยชน์จากการที่ผู้อื่นมาใช้นามหรือชื่อเดียวกันโดยมิได้รับอำนาจให้ใช้ได้ อันจะทำให้โจทก์ มีสิทธิเรียกให้จำเลยระงับความเสียหายและร้องขอต่อศาลให้สั่งห้ามมิให้จำเลยใช้นามหรือชื่อนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 โจทก์ไม่มีสิทธิห้ามจำเลยใช้ชื่อบริษัทตราม้าลาย จำกัด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการค้า ผลิต และจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนรวมตลอดทั้งเครื่องใช้ในโรงพยาบาลและโรงแรมทั่วไปโดยใช้เครื่องหมายการค้าตราหัวม้าลาย โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า”ตราม้าลาย” “ตราหัวม้าลาย” และคำอักษรโรมัน”ZEBRA” ในลักษณะรูปแบบต่าง ๆ ไว้ และนับตั้งแต่เริ่มประกอบการค้าเป็นต้นมาโจทก์ได้ใช้ความสามารถและค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะในด้านการโฆษณาเพื่อให้ประชาชนได้คุ้นเคยกับชื่อยี่ห้อสินค้าของโจทก์ภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท ทำให้ประชาชนทั่วไปรู้จักสินค้าของโจทก์อย่างแพร่หลายว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพไว้วางใจได้ ต่อมาประมาณกลางปี 2529 โจทก์ได้ทราบว่าจำเลยได้ประกอบการค้าประเภทเดียวกันกับโจทก์โดยใช้ชื่อในการประกอบการค้าว่า “บริษัทตราม้าลาย จำกัด”การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการใช้ชื่อบริษัทเลียนแบบให้เหมือนหรือคล้ายคลึงกับชื่อเครื่องหมายการค้าของโจทก์เพื่อแสวงหาประโยชน์จากชื่อเครื่องหมายการค้านั้น เพื่อให้จำเลยสามารถจำหน่ายสินค้าของจำเลยได้เพิ่มขึ้นโดยอาศัยผลจากการโฆษณาและชื่อเสียงที่ดีและเป็นที่เชื่อถือของประชาชนของโจทก์ เป็นการลวงสาธารณชนให้เข้าใจผิดว่าสินค้าของจำเลยเป็นของโจทก์อันจะทำให้รายได้จากการขายสินค้าของโจทก์ต้องลดน้อยลงและทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าจำเลยมีความเกี่ยวพันหรืออยู่ในเครือเดียวกันกับโจทก์ ทำให้โจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาให้ประชาชนทราบว่าสินค้าและชื่อ”ตราม้าลาย” และ”ตราหัวม้าลาย” เป็นของโจทก์เพียงผู้เดียวเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท โจทก์ได้มีหนังสือเรียกร้องให้จำเลยระงับการใช้ชื่อของจำเลยดังกล่าวแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉยโจทก์ขอคิดค่าเสียหายเป็นเงินเดือนละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะระงับการใช้ชื่อดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยระงับการใช้ชื่อ “บริษัทตราม้าลาย จำกัด” และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เดือนละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะระงับการใช้ชื่อดังกล่าว
จำเลยให้การว่า การขอใช้ชื่อนิติบุคคลของจำเลยได้รับการอนุมัติจากนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจำกัด จำเลยไม่ได้ใช้ชื่อซ้ำเหมือนหรือคล้ายกับชื่อของบริษัทโจทก์ จำเลยไม่ได้ลอกเลียนคำว่า”ตราม้าลาย” จากเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ผู้เริ่มก่อการผู้ถือหุ้น และผู้เป็นกรรมการของจำเลยเป็นเจ้าของสิทธิในเครื่องหมายการค้า”ม้าลาย” โดยได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวก่อนโจทก์ จำเลยไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์มาประกอบกิจการค้า คำว่า “บริษัท ตราม้าลาย จำกัด”เป็นชื่อนิติบุคคล การที่จำเลยใช้ชื่อบริษัทว่า “ตราม้าลาย”ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยระงับการใช้ชื่อ”บริษัทตราม้าลาย จำกัด” ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ10,000 บาท ให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันฟ้อง (วันที่ 29 มีนาคม 2531)เป็นต้นไปจนถึงวันที่จำเลยระงับการใช้ชื่อ”บริษัทตราม้าลาย จำกัด” จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ซึ่งไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาโต้แย้งเป็นอย่างอื่นว่าโจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งที่เป็นตราหัวม้าลาย และตราม้าลายเป็นรูปม้าลายทั้งตัวใช้กับสินค้าจำพวกที่ 5, 6, 7, 8, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 21, 39, 41 และ 49ซึ่งเป็นการจดทั้งจำพวกทุกรายการดังกล่าว โดยสินค้าบางจำพวกเป็นตราหัวม้าลาย บางจำพวกเป็นตราม้าลาย ปรากฏตามสำเนาหนังสือคู่มือรับจดทะเบียนเอกสารหมาย จ.3 ส่วนนายวสันต์ ยิ่งดำรงซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่และกรรมการผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวของจำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราม้าลาย เป็นรูปม้าลายทั้งตัวใช้กับสินค้าจำพวกที่ 7, 15 และ 16 ทั้งจำพวก และจดไว้เฉพาะสินค้าบางรายการสำหรับสินค้าจำพวกที่ 6 และ 13 ตามเอกสารหมาย ล.5 ถึง ล.10 โจทก์และนายวสันต์ เคยมีคดีฟ้องร้องกันหลายคดีเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าตราม้าลายของโจทก์และของนายวสันต์ และได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันสองคดีตามคดีหมายเลขแดงที่ 4561/2522 และ 11125/2523 ของศาลชั้นต้นสรุปใจความตามที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาตามสำนวนคำพิพากษาศาลฎีกาเอกสารหมาย จ.8 ได้ว่า โจทก์และนายวสันต์จะใช้เครื่องหมายการค้าตราม้าลายร่วมกันกับสินค้าจำพวกที่ได้ยื่นคำร้องจดทะเบียนไว้ต่อกองสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าต่างไม่ขอคัดค้านซึ่งกันและกันโจทก์และนายวสันต์ ตกลงไม่ผลิตสินค้าและนำออกจำหน่ายสำหรับสินค้าที่ต่างขอจดทะเบียนไว้ตามคำขอที่ต่างได้ยื่นไว้แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์เป็นข้อแรกว่า โจทก์มีสิทธิห้ามจำเลยใช้ชื่อ “บริษัทตราม้าลาย จำกัด” หรือไม่ เห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “ตราม้าลาย” แต่โจทก์ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว นายวสันต์ ผู้เริ่มก่อการและกรรมการผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวของจำเลยก็เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าตราหัวม้าลาย นั้นด้วย นามหรือชื่อและเครื่องหมายการค้าเป็นคนละเรื่องกัน กรณีแห่งคดีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิในนามหรือชื่อของบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18เมื่อคำว่า “บริษัทตราม้าลาย จำกัด” ซึ่งเป็นนามหรือชื่อของจำเลยไม่ได้ซ้ำกับนามหรือชื่อของโจทก์ซึ่งใช้ชื่อว่า”บริษัทชุมศิลป์โลหการ จำกัด” ถึงแม้จำเลยตั้งชื่อของจำเลยตรงกับคำในเครื่องหมายการค้าตราม้าลาย ของโจทก์และของนายวสันต์ กรรมการของจำเลย ก็มิใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในการที่จะใช้นามหรือชื่ออันชอบที่จะใช้ได้นั้น หรือทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าของนามหรือชื่อนั้นต้องเสื่อมเสียประโยชน์จากการที่ผู้อื่นมาใช้นามหรือชื่อเดียวกันโดยมิได้รับอำนาจให้ใช้ได้อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกให้จำเลยระงับความเสียหายและร้องขอต่อศาลให้สั่งห้ามมิให้จำเลยใช้นามนั้นหรือชื่อนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 ทั้งฟังไม่ได้ด้วยว่าการที่จำเลยใช้ชื่อจำเลยเช่นนั้นเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตโจทก์จึงไม่มีสิทธิห้ามจำเลยใช้ชื่อบริษัทตราม้าลาย จำกัดฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน