คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ทั้ง 4 ฟ้องเรียกค่าจ้างจากจำเลยทั้ง 3 จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งเรียกเงินส่วนที่ต้องจ้างผู้อื่นทำแทนจากโจทก์ที่ 2

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ 1-2-3 ได้ร่วมกันจ้างโจทก์ทำงานและค้างค่าจ้างจริง พิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 ชำระค่าจ้างให้โจทก์

จำเลยทั้ง 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกาว่า เมื่อศาลบังคับให้จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนิติบุคคลชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นผู้จัดการ ก็ไม่จำต้องรับผิดอีก

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นทั้งเจ้าของและผู้จัดการบริษัทไพบูลย์ประทีป ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยที่ 1 ได้ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1070 ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อใดห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชำระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดก็ได้และเมื่อโจทก์ทั้ง 4 ได้รับจ้างจากจำเลยด้วยกันและได้ทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้ จึงพิพากษายืน

Share