แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายจะเตะคนอื่น แต่เตะผิดไปถูกเอาจำเลยจำเลยจึงฟันผู้เสียหายไปหนึ่งทีดังนี้ ถือได้ว่าเปนการยั่วโทสะ
เกิดทำร้ายชุลมุนอันเปนหมู่ไหย่เมื่อเลิกล้วปรากตว่ามีผู้ได้รับมาดเจ็บสาหัส ฟังไม่ได้ว่าไครทำร้ายไครดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดถานวิวาทตามมาตรา 258
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกายนายรุนนายรัดและนายห่อถึงบาดเจ็บสาหัส ขอไห้ลงโทส
ได้ความว่านายห่อเมาสุราจะเตะนายยงค์ แต่เตะผิดตัวไปถูกเอาจำเลยที่ ๑ ๆ จึงฟันนายห่อหนึ่งทีแล้วเกิดทำร้ายกันชุลมุนเปนหมู่ เมื่อเลิกกันแล้วปรากตว่านายรุน นายรัก นายห่อบาดเจ็บ นายรุน นายรัก รักสาหยู่ประมาน ๑ เดือนหาย นายห่อบาดเจ็บสาหัสไม่สามาถมาเบิกความได้หลังจากเกิดเหตุแล้ว ๒ เดือนเสสยังไม่หาย
สาลชั้นต้นพิพากสาลงโทสจำเลยทุกคนตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๒๕๖,๖๓
สาลอุธรน์พิพากสาแก้ว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามมาตรา ๒๕๔ เพราะนายห่อผู้บาดเจ็บโจทไม่ได้นำตัวมาเบิกความจะฟังว่าบาดแผลสาหัสไม่ได้ ส่วนที่ ๒,๓,๔ มีความผิดถานวิวาทตามมาตรา ๒๕๘ และฉเพาะจำเลยที่ ๑ ควนลดโทสถานยั่วโทสะตามมาตรา ๕๕
โจทดีกาว่า คดีไม่เข้าเกนท์ยั่วโทสะตามมาตรา ๕๕ และไม่เข้าเกนท์วิวาทตามมาตรา ๒๕๘ ควบเข้า ม.๒๕๖
สาลดีกาเห็นว่าการที่นายห่อไปเตะจำเลยที่ ๑ จึงทำร้ายเอานั้นเปนกรนียั่วโทสะแล้ว ส่วนการกะทำของจำเลยจะเข้ามาตรา ๒๕๘ หรือ ๒๕๖ นั้นจำเลยที่ ๑ ผิดตามมาตรา ๒๕๖ จำเลยที่ ๒,๓,๔ ฟังไม่ถนัดว่าไครทำร้ายไคร กรนีจึ้งต้องด้วยมาตรา ๒๕๘ จึงพิพากสาสาลอุธรน์ฉเพาะคดีสำหรับจำเลยที่ ๑ เปนไห้จำคุกตามที่สาลชั้นต้นไต่สวนพิพากสาไว้แต่ไห้ลดไห้ตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๕๕ ถานยั่วโทสะกึ่งหนึ่ง