คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาท ชนเฉี่ยวรถที่ บ. ขับมาได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 66 ตามที่แก้ไข ดังนี้ ด. เจ้าของรถคันที่ถูกชนไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก เพราะยังเรียกไม่ได้ว่าได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) แม้ศาลชั้นต้นจะได้อนุญาตให้ ด. เข้าร่วมเป็นโจทก์ และเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ด. อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมยกอุทธรณ์เสีย โดยเหตุที่โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทเฉี่ยวชนรถยนต์ที่นายทองเบิ้ม ลิ้มเฮง เป็นผู้ขับขี่ เป็นเหตุให้รถยนต์ที่ถูกชนเสียหายและสินค้าในรถยนต์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก
บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด เจ้าของรถยนต์ที่ถูกชน และนายทองเบิ้ม ลิ้มเฮง ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบเอาเป็นแน่นอนไม่ได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายขับรถโดยประมาท กรณีมีเหตุสงสัยกับควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง
บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม
บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด โจทก์ร่วมเจ้าของรถยนต์ที่ถูกชนคดีนี้ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก เพราะยังเรียกไม่ได้ว่า โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๔) ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๗๔/๒๔๙๗ และที่ ๒๐๒/๒๕๑๐
พิพากษายืน

Share