แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใช้ขวานฟันและตีเขาถูกที่ศีรษะอันเป็นที่สำคัญ มีบาดแผลลึกจดกระโหลกศีรษะถึง 2 แผลบาดเจ็บสาหัส และที่ขมับอีกหนึ่งแผลผู้ถูกทำร้ายหมดสติทันทีดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่า ย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ขวานฟันและตีนายเคลื่อน อำมาตย์มีบาดแผลรวม 5 แห่ง ถึงบาดเจ็บสาหัส โดยเจตนาจะฆ่าแต่หากมีเหตุอันพ้นวิสัยของจำเลยมาขัดขวาง นายเลื่อนจึงไม่ตายขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60, 256
จำเลยให้การว่า ใช้สันขวานฟันตีนายเคลื่อนเพราะโมโหที่นายเคลื่อนไม่ฟังคำห้ามที่ไปเอานาของนายจองหลานชายจำเลย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานพยายามฆ่าคนตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 กำหนดโทษ 10 ปี ลดฐานปรานีตามมาตรา 59 ลง 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือนขวานของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า คดีไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่านายเคลื่อน จำเลยคงมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายสาหัส ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256 กำหนดโทษ 3 ปี ลดฐานปรานี 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี
โจทก์จึงได้ฎีกาขึ้นมา ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนดังศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความในทางพิจารณาว่า นายเคลื่อนผู้เสียหายเป็นน้องเขยจำเลย วันเกิดเหตุเวลาบ่าย ขณะที่นายเคลื่อนกำลังดึงเถาวัลย์อยู่ที่รั้วข้างบ้าน จำเลยก็เข้ามาใช้ขวานฟันและตีจนนายเคลื่อนล้มไม่รู้สึกตัว แล้วจำเลยก็กลับไป
ปรากฏว่านายเคลื่อนมีแผล 5 แห่ง คือ
1. ศีรษะขวา กว้าง 3 เซ็นติเมตร ยาว 1 นิ้วฟุตครึ่งลึกจดกระโหลกศีรษะ
2. ศีรษะซ้าย กว้าง 1 เซ็นติเมตร ยาว 5 เซ็นติเมตร
3. บนศีรษะซ้าย กว้าง 5 เซ็นติเมตร ยาว 1 นิ้วฟุต ลึกจดกระโหลกศีรษะ
4. ขมับขวา กว้าง 1 เซ็นติเมตร ยาว 5 เซ็นติเมตร ลึก 1 เซ็นติเมตร
5. ไหล่ซ้ายฟกซ้ำรักษาอยู่กว่าเดือนก็ยังไม่หายสนิท
ได้ความเช่นนี้ พิจารณาเห็นว่า การที่จำเลยใช้ขวานตีและฟันนายเคลื่อนที่ศีรษะ ที่ขมับ จนมีบาดแผลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าจำเลยกระทำด้วยกำลังแรงและเลือกทำร้ายเฉพาะในที่สำคัญเช่นนี้พอฟังให้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 การที่จำเลยกลับไปเองโดยไม่ซ้ำเติม จำเลยอาจเข้าใจว่านายเคลื่อนคงถึงตายก็ได้ เพราะนายเคลื่อนล้มหมดสติไปแล้วความผิดจำเลยต้องกับกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 60 ฐานพยายามฆ่าคน
เหตุนี้จึงพิพากษาแก้ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลย ดังคำพิพากษาศาลชั้นต้น