แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา 256 จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 2 ปีและ 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา 254 จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 1 ปี 6 เดือน และ 6 เดือนดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ย่อยาว
คดีได้ความว่าจำเลยต่างทำร้ายซึ่งกันและกัน ศาลชั้นต้นพิจารณาเห็นว่าจำเลยที่ ๑ -๒ – ๓ มีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๖ พิพากษาจำคุกจำเลยที่ ๒ -๓ คนละ ๓ ปี จำคุกจำเลยที่ ๑ สองปี ลดโทษให้จำเลยที่ ๓ โดยจริตไม่ปรกติตามมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ ๔ ไม่มีผิด
จำเลยทั้ง ๓ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าบาดแผลที่จำเลยทำร้ายกันได้ความตามคำพยานรักษาบาดแผลว่าบาดแผลสาหัส เพราะรูปหน้าเสียโฉม ที่ว่าเสียโฉมมิปรากฏเหตุผลรายงานตรวจบาดแผลก็มิได้แสดงว่าเสียโฉมอย่างใด จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นบาดแผลสาหัสพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๑ – ๒ มีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๔ ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ หนึ่งปีหกเดือน จำเลยที่ ๓ ผิดตามมาตรา ๒๕๔-๔๗ ลงโทษจำคุก ๖ เดือน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาในข้อบาดแผลถึงสาหัสหรือไม่ มีรายงานชันสูตรบาดแผลและคำผู้รักษาบาดแผลเบิกความยืนยันว่าเป็นบาดแผลสาหัสโดยรูปหน้าเสียโฉม แต่มิได้ให้เหตุผลอย่างใด จะฟังเป็นบาดแผลถึงเสียโฉมไม่ถนัด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์