คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพะนันโปปั่น ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นผู้สมรู้ในการจัดให้มีการเล่นการพะนัน ดั่งนี้ ลงโทษจำเลยฐานสมรู้ได้
(อ้างฎีกา 205/2483)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันเล่นการพะนันโปปั่นตาม พ.ร.บ.การพะนัน โดยจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนัน จำเลยอื่นเป็นเจ้ามือ และผู้เข้าเล่น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทุกนตามฟ้อง เว้นแต่จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานเป็นผู้สมรู้ในการจัดให้มีการเล่นการพนันรายนี้ จึงลงโทษจำเลยที่ ๑ ตาม พ.ร.บ.การพะนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๖๓
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยสมคบกันกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐานตัว แต่ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยกระทำความผิดในฐานเป็นผู้สมรู้ในองค์ความผิดเดียวกันนั้น ย่อมลงโทษจำเลยได้ ไม่ขัดต่อ ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๙๒
พิพากษายืน

Share