แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คู่ความตกลงให้ถือเอาสิ่งของใดเป็นจุดสำหรับวัดเขตต์ที่พิพาท ถ้าหากสิ่งนั้นไม่มีอยู่แล้วคู่ความก็ต้องนำสืบในเรื่องเขตต์ที่ไปตามกระบวนความ
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์จำเลยมีที่ดินติดต่อกัน โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยตัดฟันต้นทองหลางและต้นฝ้ายที่โจทก์ปลูกเป็นแนวเขตต์ไว้ ขอให้ห้ามและใช้ค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายปลูกอยู่ในที่ของจำเลย
ในชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยตกลงกัน ให้ถือว่าเนื้อที่ดินของจำเลยว่ามีจริงตามโฉนดที่จำเลยอ้าง แต่ให้วัดสอบเขตต์ดูว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของฝ่ายใด โดยวัดสอบเขตต์ของจำเลยคือวัดจากด้านไต้ตรงหัวคันนาและมีรั้วกั้นเป็นจุดปลายทั้งสองข้างตรงขึ้นไปทางเหนือข้างละ ๖๐ เมตร์ แล้วลากเส้นตรงจากจุดทั้งสองนี้ ถ้าปรากฎว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของฝ่ายใด ฝ่ายนั้นเป็นเจ้าของ และต่างยอมถือเป็นแนวเขตต์ระหว่างกันต่อไป
เมื่อเจ้าพนักงานออกไปวัดสอบเขตต์ปรากฎว่า หัวคันนาและรั้วไม่มีตามที่ท้ากันไว้ โจทก์จำเลยต่างนำชี้เถียงกัน คือโจทก์นำชี้ตามเส้นสีเขียว จำเลยนำชี้ตามเส้นสีแดงในแผนที่ ซึ่งถ้าถือตามที่โจทก์ชี้ต้นทองหลางและต้นฝ้ายก็อยู่ในเขตต์ที่ของโจทก์ ถ้าถือตามที่จำเลยนำชี้ก็อยู่ในเขตต์ที่ของจำเลย แต่โจทก์จำเลยตกลงกันให้ศาลชี้ขาดตามรูปแผนที่นั้นว่า แนวเขตต์ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของฝ่ายใด โจทก์จำเลยต่างไม่สืบพะยาน
ศาลจังหวัดพระตะบองชี้ขาดว่า โจทก์จำเลยรับกันว่า ด้านใต้ของเขตต์ที่จำเลยติดนาซึ่งเป็นของจำเลย ฉะนั้นส่วนที่เป็นป่าเป็นเนื้อที่ของโฉนด แต่ตามเส้นสีแดงที่จำเลยนำชี้กินเข้าไปในป่าราว ๕ ถึง ๑๑ เมตร เห็นว่าเนื้อที่ของจำเลยควรอยู่สุดป่า ตามที่โจทก์นำชี้จึงพิพากษาว่าต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยเห็นว่า โจทก์จำเลยต่างเถียงกันในจุดที่ตั้งต้นวัด เมื่อปรากฎว่าหัวคันนาและรั้วกั้นไม่มีตามที่ท้ากันไว้โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในที่ของโจทก์ ๆ จะต้องนำสืบ เมื่อโจทก์มิได้นำสืบก็ฟังไม่ได้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในที่ของโจทก์ และในเรื่องนี้โจทก์จำเลยก็โต้เถียงกันอยู่ว่า เขตต์ที่ตามโฉนดของจำเลยทางด้านใต้อยู่ตรงไหน เมื่อโจทก์ไม่สืบพะยานประกอบให้ฟังได้ว่า แนวต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของโจทก์และทั้งไม่ปรากฎว่าฝ่ายใดครอบครองที่นั้นอยู่แล้ว โจทก์ก็หาอาจชนะคดีได้
ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยเห็นว่า ตามรายงานที่คู่ความตกลงกันให้ถือแนวหัวคันนาและมีรั้วกั้นเป็นแนวเขตต์ที่ของจำเลยทางด้านใต้ แต่ไม่ปรากฎว่ามีหัวคันนาและมีรั้วกั้น เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้ศาลเห็นว่า แนวเขตต์ที่ของจำเลยทางด้านใต้อยู่ตรงไหนแล้ว ก็รู้ไม่ได้ว่า ต้นทองหลางและต้นฝ้ายอยู่ในเขตต์ที่ของใคร คดีโจทก์จึงต้องแพ้