คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674-675/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือยาว 4 ศอกตีผู้ตาย 1 ทีถูกที่คิ้วและขอบตาซ้ายเป็นบาดแผลช้ำดำบวมสันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองแตกและถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมา จำเลยเมาสุรามิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับผู้ตาย ดังนี้ฟังได้ว่าจำเลยมิได้เจตนาจะฆ่าให้ตายหากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้า จึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาความเมาสุราไม่เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิด แต่เป็นเครื่องหยั่งเจตนาประกอบการกระทำได้

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันฆ่านายอิ่มถึงแก่ความตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 63, 256

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 15 ปี ตามมาตรา 249, 63ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องคดีเฉพาะนายเขียด นางสิงและนายแสงจำเลย นอกนั้นยืนตาม

โจทก์และนายกล่อมจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่านายกล่อมจำเลยเป็นผู้ฆ่านายอิ่มตายแต่ผู้เดียวแต่เห็นว่านายกล่อมจำเลยใช้ไม้ไผ่โตขนาดข้อมือ ยาว 4 ศอกตีนายอิ่ม 1 ทีถูกที่คิ้วและขอบตาซ้าย เป็นบาดแผลช้ำดำบวม สันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองแตก และถึงแก่ความตายภายใน 10 ชั่วโมงต่อมานายกล่อมจำเลยมิได้มีข้อสาเหตุบาดหมางกับนายอิ่ม ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าให้ตาย หากบังเอิญไปถูกที่สำคัญเข้าจึงเกิดผลร้ายแรงจนถึงตายขึ้นเช่นนี้ จำเลยควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

พิพากษาแก้ว่านายกล่อมจำเลยมีผิดตามมาตรา 251 ให้จำคุก 7 ปีนอกจากนี้คงยืน

Share