คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6731/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชีแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายฟ้องมาโดยละเอียดว่าหนี้ดังกล่าวเป็นเงินต้นเท่าใดดอกเบี้ยเท่าใด คิดคำนวณอย่างไร ก็ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นรายละเอียดที่ต้องนำสืบในชั้นพิจารณาเมื่อมีประเด็นโต้เถียงกัน
โจทก์บรรยายฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามคำขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและข้อตกลงเบิกเงินเกินบัญชี การที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์อันเป็นสัญญาที่เกี่ยวเนื่องกับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่จำเลยตกลงเปิดบัญชีกับโจทก์ตามฟ้องนั้น เป็นการนำสืบถึงมูลหนี้ตามบัญชีเงินฝากกระแสรายวันตามฟ้องนั่นเอง หาต่างจากฟ้องไม่
แม้โจทก์ไม่ได้ส่งต้นฉบับพยานเอกสารต่อศาลในวันชี้สองสถานอันเป็นการฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 183 แต่เมื่อโจทก์นำพยานเอกสารต่าง ๆ มาสืบศาลชั้นต้นก็รับเอกสารเหล่านั้นไว้และเรียกค่าอ้างจากโจทก์กับยกเอกสารดังกล่าวขึ้นวินิจฉัย แสดงให้เห็นว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำเอกสารดังกล่าวมาสืบได้โดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นที่จะต้องนำพยานหลักฐานดังกล่าวมาสืบตาม ป.วิ.พ.มาตรา 183 ทวิ วรรคสอง

Share