คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับจ.บิดาโจทก์โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทนจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท การแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของจ.เจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมายแต่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทอื่นๆมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา86ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา96

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 3777 พร้อมสิ่งปลูกสร้างคือบ้านเลขที่ 189/4โจทก์ได้ให้จำเลยและนายจู้เจียง ซึ่งเป็นบิดาโจทก์อยู่อาศัยครอบครองแทน ต่อมานายจู้เจียงถึงแก่ความตายโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยและบริวารอาศัยอยู่ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์อีกต่อไป โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินพร้อมบริวาร ออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์หลายครั้ง แต่จำเลยเพิกเฉยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากบ้านเลขที่ 189/4 ของโจทก์ให้จำเลยชำระค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 5,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากบ้านและที่ดินดังกล่าว
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามฟ้อง เพราะโจทก์มิได้เป็นผู้ชำระเงินตามสัญญาซื้อขายที่ดิน แต่ผู้ชำระเงินคือจำเลยกับนายจู้เจียงบิดาโจทก์แล้วใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแทน เนื่องจากจำเลยกับนายจู้เจียงไม่ได้ถือสัญชาติไทย และไม่อาจมีกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ ขณะนี้นายจู้เจียงถึงแก่ความตายแล้ว ฉะนั้น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทกึ่งหนึ่งย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของนายจู้เจียงเจ้ามรดก ส่วนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอีกกึ่งหนึ่งย่อมตกเป็นทรัพย์สินของจำเลยในฐานะผู้ร่วมออกเงินซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทดังกล่าว ขอให้ยกฟ้อง และบังคับให้แบ่งปันทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์สินที่ได้มาจากการซื้อขายและในฐานะทายาทโดยธรรมและให้แก่ทายาทโดยธรรมของนายจู้เจียงเจ้ามรดกตามส่วนตามกฎหมาย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์เป็นผู้ซื้อและเป็นผู้ชำระเงินให้แก่ผู้ขายแต่ฝ่ายเดียว โจทก์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาท จำเลยไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายจู้เจียง ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้ดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 3777 พร้อมสิ่งปลูกสร้างเลขที่ 189/4ซึ่งมีชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดแบ่งให้แก่จำเลยกึ่งหนึ่งและทายาทของนายจู้เจียงอีกกึ่งหนึ่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยกับนายจู้เจียงบิดาโจทก์โจทก์อยู่ในฐานะถือกรรมสิทธิ์แทนเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายตามที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยฟ้องแย้งเป็นเรื่องสินสมรสและมรดกแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไปวินิจฉัยเรื่องทรัพย์สินของผู้ทำมาหากินอยู่ร่วมกันเป็นการไม่ชอบต่อกระบวนพิจารณาเพราะเป็นการเกินคำฟ้องแย้ง ข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างในคำให้การและฟ้องแย้งนั้นระบุชัดแจ้งว่าผู้ชำระเงินซื้อบ้านและที่พิพาท คือจำเลยกับนายจู้เจียงบิดาโจทก์ทรัพย์สินดังกล่าวจึงเป็นส่วนของจำเลยกึ่งหนึ่งในฐานะเจ้าของรวม เป็นการอ้างสิทธิในทรัพย์พิพาทในฐานะเจ้าของรวมโดยผลแห่งการร่วมชำระเงินหาได้อ้างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในฐานะสามีภริยาซึ่งเป็นสินสมรสดังที่โจทก์ฎีกาไม่
ส่วนปัญหาที่โจทก์ฎีกาเกี่ยวกับทรัพย์สินพิพาทในส่วนที่เป็นมรดกตลอดจนวิธีการบังคับให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทนำเงินมาแบ่งให้จำเลยและทายาททุกคนรวมทั้งโจทก์ตามส่วนตามฟ้องแย้งของจำเลยในส่วนนี้ เห็นว่าการแบ่งทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมของนายจู้เจียงเจ้ามรดกตลอดจนวิธีการแบ่งเป็นปัญหาในการจัดการมรดกซึ่งเป็นอำนาจของผู้จัดการมรดกที่จะดำเนินการตามกฎหมายแต่ผู้จัดการมรดก ก็ดี ทายาทอื่น ๆ ก็ดีมิได้เข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้ สำหรับคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยในส่วนที่ให้แบ่งทรัพย์สินพิพาทแก่จำเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมและในฐานะทายาทโดยธรรมนั้นขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 86 ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96
พิพากษาแก้ ให้ยกคำขอตามฟ้องแย้งของจำเลยที่ให้นำทรัพย์พิพาทออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาแบ่งให้แก่จำเลยและทายาททุกคนตามส่วน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share