คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พรึติการน์ที่ถือได้ว่าจำเลยได้มีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังเอาทรัพย์ที่เจ้าทุขได้ฝากไว้ เพื่อประโยชน์ของตน

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยเปนพี่สะไพ้เจ้าทุข เจ้าทุขป่วยจำเลยมาเยี่ยม เจ้าทุกฝากส้อยคอทองคำสายสมอ ๑ สายไว้แก่จำเลย เมื่อหายป่วยเจ้าทุขไปขอคืน ครั้งแรกจำเลยว่าไม่ไห้ เจ้าทุกว่ของของเจ้าทุขไม่ไห้ได้หรือ จำเลยก็ไม่โต้เถียง เจ้าทุขก็กลับ ต่อมาเจ้าทุขไปขอส้อยคืนอีก ครั้งที่ ๒ นี้จำเลยว่าของหยู่ที่จำเลย กลัวจะไม่ได้หรือ เจ้าทุขก็ไม่พูดว่าอะไร ต่อมาเจ้าทุขซาบว่าจำเลยเอกส้อยสายสมอไปบุม เจ้าทุขจึงไปแจ้งต่อตำหรวดซึ่งจำเลยกลับปติเสธต่อเจ้าพนักงานว่าไม่ได้รับทรัพย์มาเลย
สาลชั้นต้นตัดสินลงโทสจำคุกจำเลย ๖ เดือนตาม ม. ๓๑๔
จำเลยอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสากลับไห้ยกฟ้อง แต่มีความเห็นแย้งว่าควนลงโทส
โจทดีกา สาลดีกาตัดสินว่าคดีนี้เปนที่เห็นว่าจำเลยไม่ต้องการคืนสายส้อยไห้เจ้าทุกตั้งแต่ต้นโดยถืออำนาดญาติผู้ไหย่มาข่ม และไนที่สุดเมื่อเจ้าทุขไปร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานจำเลยก็กลับปติเสธว่าไม่ได้รับทรัพย์มาเสียเลย พรึติการน์ส่อสแดงไห้เห็นได้ชัดว่า จำเลยได้คิดทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์นั้นไว้เพื่อประโยชน์ตนตั้งแต่ต้น จึงพิพากสากลับไห้ลงโทสตามคำพิพากสาสาลชั้นต้น

Share