คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนที่โจทก์จะกระทำความผิด อันเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างนั้นโจทก์เคยถูกจำเลยตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากเหตุที่โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยโดยไม่มีเหตุสมควร แม้การกระทำผิดครั้งก่อน ๆ กับการกระทำผิดครั้งสุดท้ายนี้จะเป็นการกระทำผิดซ้ำในเหตุเดียวกัน แต่คำตักเตือนนั้นล่วงเลยมาแล้วถึง 2 ปีเศษ มีอายุเนิ่นนานเกินสมควรที่จะนำมาพิจารณาสำหรับการเลิกจ้างในการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับครั้งหลัง ดังนั้น เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องจ่ายค่าชดเชยแต่การกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำไปในประการที่ไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 จำเลยจึงเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ทำผิดระเบียบของจำเลยซึ่งเป็นกรณีที่ไม่ร้ายแรงและจำเลยมิได้ตักเตือนเป็นหนังสือ และมิได้บอกเลิกจ้างล่วงหน้า จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ทำผิดระเบียบของจำเลย โดยหยุดงานไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือ ต่อมาโจทก์ไม่เข้าเวรตามหน้าที่โดยไม่แจ้งให้จำเลยทราบล่วงหน้าและไม่แจ้งเหตุขัดข้อง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์และได้จ่ายค่าจ้างให้โจทก์เต็มเดือนในเดือนนั้นไปแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๒๗ โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยและโดยไม่มีเหตุสมควร จำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือให้โจทก์ลงชื่อรับทราบไว้ ต่อมาวันที่๑๓-๑๔ พฤษภาคม ๒๕๒๗ โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าและไม่มีเหตุสมควร จำเลยได้ตักเตือนเป็นหนังสือให้โจทก์ลงชื่อรับทราบไว้อีก ต่อมาวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๒๙ โจทก์ไม่เข้าเวรโดยที่ทราบอยู่แล้วว่าจะต้องเข้าเวรและไม่ยื่นใบลาล่วงหน้าโดยไม่มีเหตุสมควร ในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๒๙ โจทก์ได้กลับมาทำงานและยื่นใบลาลงวันที่ย้อนหลัง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ศาลฎีกาเห็นว่า ก่อนที่โจทก์จะกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างนั้น โจทก์เคยถูกจำเลยตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้ว๒ ครั้ง เนื่องจากเหตุที่โจทก์ไม่มาทำงานโดยมิได้ยื่นใบลาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยโดยไม่มีเหตุสมควร แม้การกระทำผิดครั้งก่อน ๆ กับการกระทำผิดในครั้งสุดท้ายนี้ จะเป็นการกระทำผิดซ้ำในเหตุเดียวกัน โดยจำเลยเคยตักเตือนเป็นหนังสือแล้วก็ตาม แต่คำตักเตือนนั้นล่วงเลยมาแล้วถึง ๒ ปีเศษ มีอายุเนิ่นนานเกินสมควรที่จะนำมาเป็นข้อพิจารณาสำหรับการเลิกจ้างในการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับครั้งหลัง ดังนั้นเมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ แต่อย่างไรก็ตาม การกระทำผิดของโจทก์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำในประการที่ไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๘๓ จำเลยจึงเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน ๑๓,๓๕๐ บาทแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง.

Share