แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลมณฑลทหารที่ 5 เพชรบุรี สั่งโอนคดีมาเป็นคดีของศาลจังหวัดเพชรบุรีอัยการเพชรบุรียื่นคำร้องคัดค้านว่าคดีนี้มีทหารประจำการกระทำผิดร่วมด้วย คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ขอให้โอนคดีให้ศาลมณฑลทหารที่ 5ศาลเพชรบุรีสั่งยกคำร้อง โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์
ย่อยาว
เดิมอัยการศาลทหารกรุงเทพฯ (จังหวัดพระนคร) ฟ้องพลทหารสง่าทหารประจำการสังกัดทหารสื่อสารกับพวกซึ่งเป็นพลเรือนเป็นจำเลยหาว่าเล่นการพนันโปกำ
พลทหารสง่าจำเลยหนี จึงระงับคดีพลทหารสง่าไว้ก่อน
จำเลยขอโอนคดีไปพิจารณายังศาลจังหวัดเพชรบุรีที่เกิดเหตุ
ศาลทหารกรุงเทพฯ (จังหวัดพระนคร) สั่งให้โอนคดีไปพิจารณายังศาลมณฑลทหารที่ 5 (ศาลจังหวัดเพชรบุรีเดิม)
ศาลมณฑลทหารที่ 5 ได้สั่งโอนเป็นคดีของศาลจังหวัดเพชรบุรี
อัยการเพชรบุรียื่นคำร้องว่า คดีปรากฏว่าจำเลยที่เป็นพลเรือนได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดร่วมกับพลทหารสง่า คดีอยู่ในอำนาจศาลทหารขอให้โอนคดีให้ศาลมณฑลทหารที่ 5 (เพชรบุรี) พิจารณาตามเดิม
ศาลเพชรบุรีมีคำสั่งว่า ที่รับโอนคดีเรื่องนี้ไว้ เป็นการชอบด้วยพระธรรมนูญศาลทหาร 2477 และพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2487 ให้ยกคำร้องของอัยการเสีย
อัยการอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ให้ยกอุทธรณ์โจทก์
อัยการฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลชั้นต้นสั่งรับโอนคดีไว้พิจารณา ยังมิได้พิพากษาข้อที่จำเลยต้องหา คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนต้องห้ามอุทธรณ์ที่โจทก์กล่าวว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำค้านของโจทก์เป็นคำสั่งในประเด็นสำคัญเรื่องอำนาจศาลนั้น วิธีพิจารณาก็มิได้ยกเว้นให้อุทธรณ์ในกรณีเช่นนี้ได้ จะอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะ คำสั่งที่ทำให้คดีเสร็จสำนวน หรือจนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญและมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์