คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอโอนโฉนดโดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งพวกตนเป็นผู้จัดการมรดก แต่พวกโจทก์กลับขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมรดกโดยตรง คำขอของโจทก์จึงขัดต่อคำอ้างและเป็นคำขอที่ขัดต่อพินัยกรรมเจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการให้ตามคำขอของโจทก์ได้

ย่อยาว

ความว่า นายสิทธิชัยได้ทำพินัยกรรมไว้ภายหลังที่นายสิทธิชัยถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ที่ 1, 2, 3 ได้ยื่นคำขอต่อจำเลยที่ 2 ให้โอนโฉนด 4 โฉนด ลงชื่อโจทก์ทั้ง 4 คนโดยอ้างว่า เป็นภรรยาและบุตรของเจ้ามรดก และในพินัยกรรมตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก จึงขอให้ลงชื่อเป็นผู้รับมรดกไปโดยตรงตามพินัยกรรม เจ้าพนักงานที่ดินเห็นว่าเป็นเรื่องมรดกมีพินัยกรรม แต่โจทก์ไม่ใช่ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและมิได้ระบุให้เป็นผู้จัดการมรดก จึงสั่งยกคำร้องและแนะนำให้ไปจัดการทางศาล ต่อมาโจทก์ร้องขอให้พิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม จำเลยที่ 2 ได้ยืนยันคำสั่งเดิมโจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยรับจดทะเบียนการมรดกที่ดินของโจทก์ กล่าวว่า นายสิทธิชัยทำพินัยกรรมมีใจความว่าให้เอาทรัพย์ไปจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ แล้วตั้งกรรมการจัดเก็บผลประโยชน์ให้โจทก์ทั้ง 4 กับห้ามจำหน่าย และห้ามโอนมรดกกับตัดมิให้นางทองห่อรับมรดก โจทก์เห็นว่า ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการตั้งมูลนิธิและห้ามโอนเป็นโมฆะ ทรัพย์มรดกของนายสิทธิชัยก็ตกทอดแก่ทายาทเสมือนไม่มีพินัยกรรม แต่พินัยกรรมข้อที่ตัดนางทองห่อมิให้รับมรดกมีผลบังคับได้ จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอโอนโฉนด โดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งพวกตนเป็นผู้จัดการมรดก แต่พวกโจทก์กลับขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมรดกโดยตรง คำขอของโจทก์จึงขัดต่อคำอ้าง และเป็นคำขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนขัดกับพินัยกรรมที่ตนอ้าง อนึ่งตามคำขอที่ว่าขอให้ลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมรดกโดยตรงตามพินัยกรรมก็ปรากฏตามพินัยกรรมดังที่อ้างนั้นว่า ไม่ได้ยกที่ดินให้พวกโจทก์ดังคำกล่าวอ้างเมื่อการขอรับมรดกของโจทก์ขัดกับคำกล่าวอ้างของตนเอง เจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการตามคำขอของโจทก์

พิพากษายืน

Share