แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอโอนโฉนดโดยอ้างว่า ผู้ตายทำพินัยกรรม์ตั้งพวกตนเป็นผู้จัดการมฤดก แต่พวกโจทก์กลับขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมฤดกโดยตรง คำขอของโจทก์จึงขัดต่อคำอ้างและเป็นคำขอที่ขัดต่อพินัยกรรม์ เจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการให้ตามคำขอของโจทก์ได้.
ย่อยาว
ความว่า นายสิทธิชัยได้ทำพินัยกรรม์ไว้ภายหลังที่นายสิทธิชัยถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ที่ ๑-๒-๓ ได้ยื่นคำขอต่อจำเลยที่ ๒ ให้โอนโฉนด ๔ โฉนด ลงชื่อโจทก์ทั้ง ๔ คนโดยอ้างว่า เป็นภรรยาและบุตรของเจ้ามฤดก และในพินัยกรรม์ตั้งให้เป็นผู้จัดการมฤดก จึงขอให้ลงชื่อเป็นผู้รับมฤดกไปโดยตรงตามพินัยกรรม์ เจ้าพนักงานที่ดินเห็นว่าเป็นเรื่องมฤดกมีพินัยกรรม์ แต่โจทก์ไม่ใช่ผู้รับมฤดกตามพินัยกรรม์ และมิได้ระบุให้เป็นผู้จัดการมฤดก จึงสั่งยกคำร้องและแนะนำให้ไปจัดการทางศาล ต่อมาโจทก์ร้องขอให้พิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม จำเลยที่ ๒ ได้ยืนยันคำสั่งเดิม โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยรับจดทะเบียนการมฤดกที่ดินของโจทก์ กล่าวว่า นายสิทธิชัยทำพินัยกรรม์มีใจความว่า ให้เอาทรัพย์ไปจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ แล้วตั้งกรรมการจัดเก็บผลประโยชน์ให้โจทก์ทั้ง ๔ กับห้ามจำหน่าย และห้ามโอนมฤดก กับตัดมิให้นางทองห่อรับมฤดก โจทก์เห็นว่า ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการตั้งมูลนิธิ และห้ามโอนเป็นโมฆะ ทรัพย์มฤดกของนายสิทธิชัยก็ตกทอดแก่ทายาท เสมือนไม่มีพินัยกรรม์ แต่พินัยกรรม์ข้อที่ตัดนางทองห่อมิให้รับมฤดกมีผลบังคับได้ จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอโอนโฉนด โดยอ้างว่าผู้ตายทำพินัยกรรม์ตั้งพวกตนเป็นผู้จัดการมฤดก แต่พวกโจทก์กับขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมฤดกโดยตรง คำขอของโจทก์จึงขัดต่อคำอ้าง และเป็นคำขอให้เจ้าพนักงานลงชื่อพวกตนขัดกับพินัยกรรม์ที่ตนอ้าง อนึ่งตามคำขอที่ว่าขอให้ลงชื่อพวกตนเป็นผู้รับมฤดกโดยตรงตามพินัยกรรม์ก็ปรากฎตามพินัยกรรม์ดังที่อ้างนั้นว่า ไม่ได้ยกที่ดินให้พวกโจทก์ดังคำกล่าวอ้างเมื่อการขอรับมฤดกของโจทก์ขัดกับคำกล่าวอ้างของตนเอง เจ้าพนักงานที่ดินชอบที่จะไม่จัดการตามคำขอของโจทก์
พิพากษายืน.