คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6671/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายและจำเลยเป็นสามีภรรยากัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายด่าโคตรพ่อโคตรแม่จำเลย ว่าจำเลยเป็นกระหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจนไล่จำเลยออกจากบ้านและใช้ไม้ขว้างจำเลย การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยาม ทั้งด่าไปถึงบุพการีของจำเลยและใช้ไม้ขว้างแสดงกิริยาคุกคามทำร้ายจำเลยเช่นนั้น ย่อมทำให้จำเลยรู้สึกแค้นเคืองเป็นอย่างมาก เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๖๙ จำคุก ๖ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๓ ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุก ๑๐ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาที่ว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวจริงหรือไม่ จำเลยเบิกความว่า ผู้ตายลากไม้หน้าสามยาวประมาณ ๑ เมตร จะไปตีจำเลย จำเลยจึงเอากระเป๋าขว้างผู้ตาย แต่ผู้ตายยังเข้าไปจะตีจำเลยจำเลยจึงหยิบกระเป๋าอีกใบหนึ่งจะขว้างผู้ตาย ปรากฏว่าพบปืน จึงคว้าปืนแล้วหลับตายิงสวนไปที่ผู้ตายซึ่งยืนอยู่ห่างจากจำเลยประมา ๒ เมตร ส่วนโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความ แต่มีนายสายันต์ ปัญญา บุตรของผู้ตายและจำเลยเบิกความว่าได้ยินบิดาด่าว่ามารดารุนแรงถึงขนาดด่าโคตรพ่อโคตรแม่และว่ามารดาเป็น กระหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจน และไล่มารดาออกจากบ้าน หลังจากนั้นได้ยินเสียงไม้กระทบประตูและได้ยินเสียงปืนดังพร้อม ๆ กัน นายสายันต์เป็นบุตรของจำเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเบิกความปรักปรำจำเลย คำเบิกความจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อว่าเป็นความจริง และเสียงไม้กระทบประตูที่นายสายันต์เบิกความถึงน่าจะเกิดจากการที่ผู้ายใช้ไม้ที่จำเลยอ้างว่าผู้ตายจะใช้ตีจำเลย ขว้างจำเลยตามคำให้การของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนว่า ผู้ตายได้ใช้ไม้ขนาดหน้าสามยาวประมาณ ๑ เมตร ขว้างใส่ฝาสังกะสี ซึ่งสองคล้องกับสภาพและร่องรอยในที่เกิดเหตุตามบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุเอกสารหมาย จ.๒ ที่ ร้อยตำรวจเอกประสงค์ ศรีวงษ์ชัย พนักงานสอบสวนได้ทำขึ้นในวันเกิดเหตุซึ่งระบุว่า ที่ฝาห้องซึ่งทำด้วยสังกะสีข้างประตูมีรอยคล้ายถูกของแข็งกระทบทะลุเป็นรู ดังนั้น ที่จำเลยเบิกความว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะผู้ตายถือไม้เข้าไปจะตีจำเลยจึงไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อมีเสียงไม้ดังขึ้นพร้อม ๆ กันตามคำเบิกความของนายสายันต์ ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าจำเลยถูกผู้ตายด่าและใช้ไม้ขว้าง จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายซึ่งถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันตัว
สำหรับปัญหาที่ว่า จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ก่อนที่จำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ผู้ตายด่าโคตรพ่อโคตรแม่จำเลย ว่าจำเลยเป็นกะหรี่ บุคคลผู้ต่ำต้อยยากจน ไล่จำเลยออกจากบ้านและใช้ไม้ขว้างจำเลย เห็นว่า การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามทั้งด่าไปถึงบุพการีของจำเลย และใช้ไม้ขว้างแสดงกิริยาคุกคามทำร้ายจำเลยย่อมทำให้จำเลยรู้สึกแค้นเคืองเป็นอย่างมาก เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การกระทำของจำเลยจึงมีเหตุบันดาลโทสะตามกฎหมาย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ลงโทษจำคุก ๖ ปี คำให้การของจำเลยในชั้นจับกุม ชั้นสอบสวน ตลอดจนในชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุก ๔ ปี

Share