คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6668/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสามได้นำรถยนต์ของกลางออกใช้ขับไปในที่ต่างๆโดยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมติดอยู่ที่รถยนต์คันเดียวกันโดยมีเจตนาแสดงเอกสารดังกล่าวต่อผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจในเวลาเดียวกันจนกระทั้งถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับพฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาอย่างเดียวคือเพื่อให้ผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยทั้งสามใช้ขับเป็นรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นการกระทำของจำเลยทั้งสามจึงมีความผิดกรรมเดียว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานรับของโจรจำคุกคนละ4ปีและลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหาใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมกับใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมโดยจำคุกกระทงละคนละ3ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นความผิดสองกรรมว่าเป็นความผิดกรรมเดียวโดยพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหานี้จำคุกคนละ3ปีโดยมิได้เปลี่ยนบทและโทษที่ได้รับก็ต่ำกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดซึ่งเป็นผลดีแก่จำเลยทั้งสามถือได้ว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและยังคงลงโทษจำเลยทั้งสามในแต่ละกระทงไม่เกิน5ปีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสามกับจำเลยที่ 1ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 739/2536 ของศาลชั้นต้นร่วมกันครอบครองรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 ช-5056 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวชนัชดา พิชณุษากร ซึ่งถูกคนร้ายลักไป ทั้งนี้จำเลยทั้งสามเป็นคนร้ายที่ร่วมกันลักเอารถยนต์ของผู้เสียหายไปโดยสุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันรับเอาไว้ซึ่งรถยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกลักเอาไปโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ และจำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข 1 ธ-2491 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่นแล้วนำไปติดไว้กับรถยนต์ของนางสาวชนัชดาคันที่ถูกคนร้ายลักไปดังกล่าว แล้วใช้อ้างแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมแสดงต่อบุคคลทั่วไปและจำเลยทั้งสามกับพวกได้ร่วมกันปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปี 2536 เลขที่ 038687 จำนวน 1 แผ่น แล้วนำไปติดไว้ที่รถยนต์ของนางสาวชนัชดาที่ถูกคนร้ายลักไปดังกล่าวแสดงต่อบุคคลทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,83, 91, 264, 265, 268, 335, 357 นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 115/2536 และ 2383/2536ของศาลชั้นต้น และนับโทษของจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษจำเลยที่ 2ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2383/2536 ของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาความผิดฐานรับของโจร ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้การปฏิเสธ และจำเลยทั้งสองรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265, 357วรรคแรก การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันเรียงกระทงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมจำคุกคนละ 3 ปี ฐานใช้แผ่นป้ายวงกลมปลอมจำคุกคนละ 3 ปี ฐานรับของโจรจำคุกคนละ 4 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 2ให้การรับสารภาพในข้อหารับของโจร เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เฉพาะความผิดฐานนี้คนละกึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในความผิดฐานรับของโจร คนละ 2 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ8 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 10 ปี นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 115/2536 และ 2383/2536ของศาลชั้นต้น นับโทษจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2383/2536 ของศาลชั้นต้น คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอมและฐานใช้ป้ายวงกลมปลอม เป็นการกระทำกรรมเดียวให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2คนละ 5 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 7 ปี นอกจากที่แก้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่าการกระทำผิดของจำเลยทั้งสามในข้อหาความผิดฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่า ก่อนจำเลยทั้งสามจะถูกจับ จำเลยทั้งสามได้นำรถยนต์ของกลางออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆโดยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมและแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ดังกล่าวข้างต้นติดอยู่ที่รถยนต์คันเดียวกันโดยจำเลยทั้งสามมีเจตนาแสดงเอกสารดังกล่าวต่อผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับ พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสามดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาอย่างเดียวคือเพื่อให้ผู้อื่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่า รถยนต์คันที่จำเลยทั้งสามใช้ขับเป็นรถยนต์ถูกต้องตามกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นการกระทำของจำเลยทั้งสามจึงมีความผิดเพียงกรรมเดียว
สำหรับปัญหาตามฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ว่า จำเลยที่ 1และที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอมด้วยหรือไม่และฎีกาของจำเลยที่ 3 ที่ว่า จำเลยที่ 3 ได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ดังที่จำเลยทั้งสามฎีกามานั้น จะเห็นได้ว่าล้วนเป็นฎีกาข้อเท็จจริง ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นได้เรียงกระทงลงโทษ โดยลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานรับของโจรจำคุกคนละ 4 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกคนละ 2 ปี และลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหาใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมกับใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอม โดยจำคุกจำเลยทั้งสามกระทงละคนละ 3 ปี คดีนี้ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในความผิดฐานใช้เอกสารปลอมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นความผิดสองกรรมว่าเป็นความผิดกรรมเดียวโดยพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหานี้จำคุกคนละ 3 ปี โดยมิได้เปลี่ยนบทและโทษที่ได้รับก็ต่ำกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนด ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นผลดีแก่จำเลยทั้งสามถือได้ว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย และยังคงลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามในแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก
พิพากษายืน

Share