แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
บัญชีระบุพยานโจทก์ระบุพยานอันดับ 1 คือ โจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน พยานอันดับ 2 คือ พ. เมื่อ พ. เป็นโจทก์คดีนี้ซึ่งได้มอบอำนาจให้ ส. ฟ้องคดีแทน การที่บัญชีระบุพยานโจทก์อ้างทั้งโจทก์และ พ. ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันเป็นคนละอันดับทำให้เห็นได้ว่าพยานอันดับ 1 ที่ทนายโจทก์มุ่งประสงค์จะอ้างเป็นพยานคือ ส. นั่นเองศาลจึงมีอำนาจรับฟังคำเบิกความของ ส. ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2535 จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์จำนวน 20,000 บาทยอมเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ตกลงชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนภายในวันที่3 สิงหาคม 2535 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ตามสัญญา โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเพียง 5 ปี เป็นเงิน 15,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 35,000บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 20,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยกู้เงินโจทก์ ลายมือชื่อของผู้กู้ในสัญญากู้เงินไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 1 แต่เป็นลายมือชื่อปลอม ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 35,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 20,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 30 กันยายน 2542) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ในข้อกฎหมายเพียงประการเดียวว่า การที่ศาลชั้นต้นรับฟังคำเบิกความของนางสุกัญญา ปานปุย โดยบัญชีระบุพยานโจทก์มิได้ระบุอ้างนางสุกัญญาเป็นพยานชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามบัญชีระบุพยานโจทก์ลงวันที่ 30 กันยายน 2542 ระบุพยานอันดับ 1 คือ โจทก์อ้างตนเองเป็นพยาน พยานอันดับ 2 คือ นางพเยาว์ เจิมท่า เมื่อนางพเยาว์เป็นโจทก์คดีนี้ซึ่งได้มอบอำนาจให้นางสุกัญญาฟ้องคดีแทน การที่บัญชีระบุพยานโจทก์อ้างทั้งโจทก์และนางพเยาว์ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันเป็นคนละอันดับทำให้เห็นได้ว่าพยานอันดับ 1 ที่ทนายโจทก์มุ่งประสงค์จะอ้างเป็นพยานคือนางสุกัญญาซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์นั่นเองศาลจึงมีอำนาจรับฟังคำเบิกความของนางสุกัญญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำพิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน